บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) เปิดเผยตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในไตรมาส 3 ปี 2566 อยู่ที่ระดับ 1.05 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ตัวเลขหนี้เสียสินเชื่อรถยนต์ ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน
กลุ่มลูกหนี้มีการค้างชำระแต่ไม่ถึง 90 วันของสินเชื่อรถยนต์อยู่ที่ 2.13 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 17.5% จากยอดสินเชื่อทั้งหมดที่ราว 500,000 ล้านบาท สะท้อนว่าประชาชนกำลังมีปัญหาเรื่องการค้างชำระการผ่อนค่างวดรถค่อนข้างมาก
สถานการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นปัญหาสำคัญของโครงสร้างเศรษฐกิจไทย แต่รู้หรือไม่ว่า? ในตลาดหุ้นไทยกลับมีหนึ่งบริษัทที่ได้ประโยชน์จากการพุ่งขึ้นของหนี้เสีย หุ้นที่่เราพูดถึงอยู่นั่นก็คือ AUCT หรือ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน)
AUCT เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจให้บริการเป็นคนกลาง ในการจัดการประมูลทรัพย์สินทุกประเภท รวมทั้งให้บริการด้านอื่น ๆ เกี่ยวข้องกับการประมูล เช่น การเคลื่อนย้ายทรัพย์สินที่ทำการประมูล การประสานงานกับสถาบันการเงิน ในการหาแหล่งเงินทุนในการซื้อทรัพย์สินแก่ผู้ประมูล และ การรับฝากขายทรัพย์สินที่เข้าประมูล แต่ไม่สามารถจบการประมูลได้
แต่ธุรกิจที่สร้างรายได้หลักให้กับ AUCT คือ การให้บริการประมูลรถมือสองในรูปแบบเปิด หรือ Open Auction เป็นการประมูลซึ่งผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้น ๆ ต้องเสนอราคาต่อกลุ่มผู้เข้าร่วมประมูล โดยผู้ที่เสนอราคาสุดท้ายสูงที่สุด จะเป็นผู้ครอบครองทรัพย์สิน
เรียกง่าย ๆ ว่า AUCT เป็นตัวกลาง ที่นำผู้ต้องการซื้อ และผู้ต้องการขายมาเจอกัน รายได้ของบริษัทจะมาจากการเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้เข้าประมูลซื้อ รวมถึงค่าธรรมเนียมจากเจ้าของทรัพย์สินตามเงื่อนไขที่ตกลงกัน
ที่น่าสนใจคือ ในช่วงเวลาที่หนี้เสียรถยนต์เติบโต และปริมาณสินเชื่อในกลุ่มมีความเสี่ยง จะส่งผลให้ทิศทางตลาดประมูลขายทอดตลาดรถยนต์มือ มีแนวโน้มจะเติบโตต่อเนื่อง เพราะแสดงถึงโอกาสที่จะมีจำนวนรถถูกยึดนำมาประมูลขายเพิ่มมากขึ้น
ลองมาดูผลประกอบการย้อนหลังของ AUCT กันบ้าง
- ปี 2562 รายได้ 812 ล้านบาท กำไร 234 ล้านบาท
- ปี 2563 รายได้ 869 ล้านบาท กำไร 228 ล้านบาท
- ปี 2564 รายได้ 901 ล้านบาท กำไร 256 ล้านบาท
- ปี 2565 รายได้ 953 ล้านบาท กำไร 251 ล้านบาท
- 9 เดือนแรก ปี 2566 รายได้ 907 ล้านบาท กำไร 254 ล้านบาท
ผลงานปีนี้ AUCT รายงานกำไรสุทธิค่อนข้างโดดเด่น แรงหนุนหลักมาจากรายได้รวมที่ปรับขึ้น หลังค่าธรรมเนียมจากการดำเนินธุรกิจลานประมูลเติบโต สอดรับกับปริมาณรถยึดที่เข้าสู่ลานประมูลก็เพิ่มขึ้น เนื่องจากสถาบันการเงินหลายแห่งกลับมาเพิ่มความเข้มงวดในการติดตามยึดรถของลูกหนี้ค้างชำระ รวมถึงเร่งระบายสต็อกรถยึดที่มีอยู่ เพื่อลดผลขาดทุนจากการขาย
บวกกับการที่บริษัทได้ปรับขึ้นค่าดำเนินการประมูลรถยนต์เป็น 10,000 บาทต่อคัน ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 จากเดิมที่ 9,000 บาทต่อคัน ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นช่วงไตรมาส 3/66 เร่งตัวขึ้นเป็น 50.2% จาก 47.9% ในไตรมาส 2/66
มุมมองนักวิเคราะห์ บล. หยวนต้า มองว่ากำไรสุทธิงวด 9 เดือนปีนี้ที่ 254 ล้านบาท คิดเป็น 72% ของประมาณการทั้งปี โดยคาดกำไรสุทธิบริษัท จะเร่งตัวขึ้นต่อในไตรมาส 4/66 ทั้ง YoY และ QoQ หลังเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจ ซึ่งปีนี้น่าจะมีรถยึดจากสถาบันการเงินไหลเข้าลานประมูลของ AUCT เป็นจำนวนมาก หลังครบกำหนดมาตรการช่วยเหลือทางการเงิน และสถาบันการเงินกลับมาเร่งติดตามยึดรถตามปกติ หลังจากผ่อนคลายลงไปมากในช่วงที่ผ่านมา
ดังนั้น จึงมองว่าธุรกิจลานประมูลของ AUCT มีความน่าสนใจ ประกอบกับราคาหุ้นยังไม่ตอบรับเชิงบวกมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมี Upside ราว 15.5% จากมูลค่าพื้นฐานปี 2567 ที่ 11.90 บาทต่อหุ้น จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- หุ้นค้าปลีก – วิเคราะห์โอกาส ‘ดิจิทัลวอลเล็ต และ e-Refund’
- ส่องอนาคต ‘BANPU-BPP’ แกร่งแค่ไหนในระยะยาว
- ส่องกลยุทธ์ลงทุน 5 หุ้นเด่น IAA Consensus ปัจจัยพื้นฐานดี ระยะยาว
