Stock

หุ้นค้าปลีก – วิเคราะห์โอกาส ‘ดิจิทัลวอลเล็ต และ e-Refund’

สรุปงบหุ้นค้าปลีก พร้อมวิเคราะห์โอกาส “ดิจิทัลวอลเล็ต และ e-Refund”

บทความอยากจะพูดถึงหุ้นค้าปลีกชั้นนำในตลาดหุ้นไทย โดยเราคัดมาทั้งหมด 7 ราย ได้แก่ BJC: บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน), CPALL: บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน), CPAXT: บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน), CRC: บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), DOHOME: บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน), GLOBAL: บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) และ HMPRO: บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)

โดยทั้ง 7 บริษัท ทำกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2566 รวมกันอยู่ที่ 10,100 ล้านบาท เติบโต 3.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 9% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นผลของฤดูกาลที่ธุรกิจค้าปลีกเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่น และความไม่แน่นอนทางการเมืองยังส่งผลต่อการบริโภค รวมถึงมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ที่สูงขึ้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับการขยายสาขาและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

สรุปกำไรไตรมาส หุ้นค้าปลีก@300x 100 0

 

สรุปกำไรไตรมาส หุ้นค้าปลีก copy@300x 100 0

ในบรรดาผู้ค้าปลีกทั้ง 7 ราย CPALL, DOHOME และ CPAXT รายงานการเติบโตทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่ BJC GLOBAL และ CRC รายงานกำไรที่ลดลงทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่ HMPRO มีกำไรไตรมาส 3/2566 ทรงตัว YoY แต่ปรับลดลง QoQ

แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/66 หุ้นค้าปลีก

บทวิเคราะห์ บล. กสิกรไทย ให้มุมมองแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2566 หุ้นค้าปลีกว่าจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น และคาดว่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีสำหรับบริษัทค้าปลีกส่วนใหญ่ จึงคงมุมมองเชิงบวก แม้ว่าการเติบโตของกำไรของกลุ่มพาณิชย์ปี 2566 น่าจะอยู่ในระดับปานกลางที่ประมาณ 10.6% YoY แต่ประเมินว่าจะเร่งตัวขึ้นเป็น 23% YoY ในปี 2567

หุ้น CPALL และ GLOBAL เป็นหุ้นเด่นของ บล. กสิกรไทย ในกลุ่มพาณิชย์ ส่วน DOHOME และ GLOBAL โดดเด่นในแง่การฟื้นตัวที่ชัดเจน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มขึ้นในไตรมาส 4/2566 อย่างไรก็ดี หากมองในแง่ความน่าสนใจของการประเมินมูลค่าหุ้น CPAXT และ HMPRO ถือว่าตอบโจทย์ที่สุด ขณะที่ CPALL CPAXT และ GLOBAL เป็นบริษัทหลักๆ ที่จะได้ประโยชน์จากมาตรการของภาครัฐที่เพิ่งประกาศออกมาอย่าง “ดิจิทัลวอลเล็ต” และ “e-Refund”

โอกาสหุ้นค้าปลีกกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และ e-Refund

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา รัฐบาลประกาศว่าจะมอบเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้กับคนไทยทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป รายได้น้อยกว่า 70,000 บาทต่อเดือน และเงินฝากในธนาคารน้อยกว่า 500,000 บาท จากหลักเกณฑ์เหล่านี้ ผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินจะอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านคน โดยเงินดิจิทัลจะถูกโอนเข้าสู่กระเป๋าเงินบนแอปเป๋าตัง ซึ่งจะเริ่มในเดือนพฤษภาคม 2567 โดยต้องใช้เงินภายใน 6 เดือนในเขตตามทะเบียนบ้าน ไม่สามารถโอนให้บุคคลอื่นหรือแปลงเป็นเงินสดได้

ดิจิทัล วอลแลต 700x410 1

ทั้งนี้ บล. กสิกรไทย มองว่าหากโครงการได้รับการอนุมัติแล้ว ผู้ได้ประโยชน์หลักภายใต้การวิเคราะห์น่าจะเป็นผู้เล่นค้าปลีกที่มีเครือข่ายทั่วประเทศหรือครอบคลุมพื้นที่ต่างจังหวัด เช่น CPALL, CPAXT, DOHOME และ GLOBAL

อีกโครงการคือสิทธิประโยชน์ทางภาษี “e-Refund” เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงต้นปี 2567 สำหรับผู้เสียภาษีบุคคลธรรมดาที่ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” ให้สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการซื้อสินค้าและบริการมูลค่าไม่เกิน 50,000 บาท ซึ่งสูงขึ้น 25% จากที่ตั้งไว้ในปีที่แล้วที่ 40,000 บาท โดยนักวิเคราะห์มีมุมมองเชิงบวกต่อโครงการการใช้จ่ายที่กำลังจะเกิดขึ้น เนื่องจากจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ค้าปลีกสมัยใหม่ผ่านการยกเว้นภาษีสำหรับผู้เสียภาษีประมาณ 1.3 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม อาจจะเกิดผลกระทบเชิงบวกมากนัก เนื่องจากการใช้จ่ายที่เพิ่มเติมจากปีที่แล้วน่าจะช่วยหนุนการเติบโตยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ของร้านค้าปลีกในไตรมาส 1/67 ประมาณ 0.5% – 2% และมี upside ต่อกำไร ประมาณ 0.5% – 1% ในประมาณการกำไรปี 2567  ผู้ได้ประโยชน์หลักภายใต้การวิเคราะห์น่าจะเป็นผู้ค้าปลีกสินค้าฟุ่มเฟือย ได้แก่ CRC และ HMPRO

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน