Stock

อัปเดตมุมมอง ‘หุ้น CPF’ ผ่านพ้น ‘จุดต่ำสุด’ แล้วหรือยัง

กำลังเผชิญความท้าทายในแง่ของการดำเนินงาน สำหรับหุ้น CPF หรือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) จากทั้งภาวะเศรษฐกิจในหลายประเทศที่ไม่เป็นไปตามคาด กำลังซื้อถดถอย ต้นทุนราคาวัตถุดิบทางการเกษตรปรับตัวสูงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่แพงขึ้น รวมถึง ยังเจอปัญหาสำคัญอย่างการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก

ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยในช่วงไตรมาส 3 ปี 2566 บริษัทมีรายได้จากการขาย 144,498 ล้านบาท เป็นส่วนของกิจการต่างประเทศ 62% และกิจการประเทศไทย 38%

หุ้น CPF

CPF มีผลขาดทุนสุทธิในส่วนของบริษัท 1,837 ล้านบาท เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าปีที่แล้ว เพราะต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น ทั้งราคาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตอาหารสัตว์ และราคาพลังงาน 

อีกทั้งยังได้รับผลกระทบจากราคาหมูในหลายประเทศที่อยู่ในระดับต่ำกว่าปีก่อน โดยเฉพาะในประเทศไทย เวียดนาม และกัมพูชา ซึ่งราคาเฉลี่ยลดลง 26% เนื่องจากปริมาณเนื้อหมูมีมากกว่าความต้องการบริโภค ผลจากการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูผิดกฎหมายจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก

สำหรับแผนกลยุทธ์ในช่วงที่เหลือของปีนี้ CPF มีนโยบายในการลงทุน และใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง พร้อมเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ด้วยการปรับแผนการลงทุน เช่น การพิจารณาการใช้ทรัพย์สินในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดหรือหยุดดำเนินกิจการ ที่มีแนวโน้มเปลี่ยนไปจากที่เคยคาดการณ์ไว้ ซึ่งคาดว่าจะทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 เป็นต้นไป

หุ้น CPF

คำถามคือ สำหรับการลงทุนในหุ้น CPF สถานการณ์แบบนี้ควรทำอย่างไรดี ถือต่อรอสถานการณ์ ทยอยถัวเฉลี่ย ปรับลดสัดส่วนการลงทุน หรือมองเป็นโอกาสเข้าสะสมหุ้นเพิ่มเติม 

นักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง สรุปประเด็น หลังจากเข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์หุ้น CPF ว่า ผู้บริหารมองปัจจัยความไม่แน่นอน ได้แก่ กำลังซื้อที่ลดลง และอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง ส่งผลให้บริษัทปรับกลยุทธ์ โดยเน้นประสิทธิภาพการบริหารงาน และใช้สินทรัพย์ที่มีปัจจุบัน หยุดธุรกิจที่ขาดทุน ขยายธุรกิจเท่าที่จำเป็น และควบคุมค่าใช้จ่าย และมองว่าปี 2566 เป็นจุดต่ำสุด หลังจากนั้นจะฟื้นตัวในปี 2567 จากราคาผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ ที่จะปรับตัวดีขึ้น และต้นทุนวัตถุดิบที่จะลดลงในปีหน้า

บล.บัวหลวง เชื่อว่าในปีนี้ถือเป็นจุดต่ำสุดของหุ้น CPF แล้ว และการฟื้นตัวจะเกิดขึ้นในปีหน้า จากราคาเนื้อสัตว์ที่จะกลับมาฟื้นตัว จากสถานการณ์หมูเถื่อนที่ดีขึ้น รวมทั้งการส่งออกไก่ จะกลับมาฟื้นตัวแข็งแกร่ง จึงแนะให้นักลงทุนมองข้ามขาดทุนของทั้งปี 2566 และให้ความสำคัญกับการฟื้นตัวในปี 2567 แทน โดยคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” หุ้น CPF

ขณะที่ บล.หยวนต้า ประเมินว่าแนวโน้มผลประกอบการ CPF ผ่านจุดต่ำสุดไปในไตรมาส 3/66 โดยคาดว่าในไตรมาส 4/66 จะฟื้นตัวดีขึ้น QoQ จากการรับรู้ราคาต้นทุนวัตถุดิบการเลี้ยง ที่ปรับลดลงชัดเจนมากขึ้น และคาดหวังว่า ราคาหมูในประเทศจะฟื้นตัว เนื่องด้วยราคาขายปัจจุบัน ยังไม่ได้มาจากกลไกของตลาดในภาวะปกติ และยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าต้นทุนการเลี้ยง 

หุ้น CPF

ทั้งนี้ เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของราคาหมู ปัจจุบันอยู่ที่ 62 บาทต่อกิโลกรัม ฟื้นขึ้นจากที่ทำระดับต่ำสุด 54 บาทต่อกิโลกรัม ในเดือนตุลาคม แต่ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ราคาอย่างต่อเนื่อง 

สำหรับแนวโน้มปี 2567 คาดจะ พลิกกลับมามีกำไรได้อีกครั้ง หลังปัจจัยกดดันต่างๆ คลี่คลายมากขึ้น นอกจากนี้ มองกลุ่มอาหารจะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ช่วยหนุนกำลังซื้อของผู้บริโภค และหนุนราคาเนื้อสัตว์เป็นลำดับถัดไป 

เบื้องต้นยังคง ราคาเป้าหมายหุ้น CPF ที่ 24 บาทต่อหุ้น และคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับการลงทุนในระยะยาว โดยคาดหวังการกลับมาเป็นวัฎจักรขาขึ้นของฟาร์มหมูในปี 2567

หุ้น CPF

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน