Stock

รถไฟรางคู่กลับมาแล้ว! ‘เมกะโปรเจกต์’ ที่ ‘หุ้นรับเหมา’ รอคอย

จากกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ ขอนแก่น-หนองคาย วงเงิน 29,748 ล้านบาท ระยะทางประมาณ 167 กิโลเมตร 14 สถานี โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี คาดเปิดใช้ได้จริงในปี 2570 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย

แผนงานของโครงการจะเริ่มก่อสร้างในปี 2567 โดยคาดว่าปริมาณผู้โดยสารในช่วงเริ่มต้น จะมีจำนวนประมาณ 3,500 คนต่อวัน และมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 5,800 คนต่อวัน ในปี 2599 ส่วนปริมาณการขนส่งสินค้าโดยใช้เส้นทางรถไฟช่วงนี้จำนวนประมาณ 3.50 ล้านตันต่อปี และมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 4.20 ล้านตันต่อปี ในปี 2599

shutterstock 1563190903

การที่ ครม. อนุมัติโครงการรถไฟรางคู่ใหม่ ถือเป็นสัญญาณการเริ่มต้นโครงการเมกะโปรเจกต์ครั้งใหม่ หลังจากหยุดนิ่งมานาน ซึ่งจะเป็นโมเมนตัมเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง โดยเฉพาะในส่วนของงานโยธา เช่น CK, STEC, ITD, NWR และ UNIQ เพราะจะได้ประโยชน์จากกระแสข่าวในการเตรียมเปิดประมูลโครงการใหม่

มุมมองบทวิเคราะห์ บล. กสิกรไทย ประเมินไทม์ไลน์ของโครงการรถไฟรางคู่ ขอนแก่น-หนองคาย ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะเริ่มการประมูล และคาดว่าจะมอบโครงการให้กับผู้รับเหมาภายในเดือนเมษายน 2567 โดยการก่อสร้างจะเริ่มในเดือนพฤษภาคม 2567 และจะแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม 2570

โดยวิเคราะห์ว่า เป็นโครงการขนาดใหญ่โครงการแรกที่เปิดตัวหลังการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ แม้ว่ามูลค่าโครงการจะอยู่ที่ประมาณ 30,000 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้ใหญ่มากเมื่อเทียบกับเมกะโปรเจกต์อื่น ๆ แต่มองว่า ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับภาคการก่อสร้าง เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการอื่น ๆ ที่กำลังจะทยอยคลอดออกมาในอนาคต

จึงมองว่าหุ้นกลุ่มผู้รับเหมาโยธา เช่น CK และ STEC คือผู้ได้ประโยชน์อันดับแรกเมื่อเข้าร่วมกระบวนการประมูล ตามมาด้วยผู้ร้บเหมาช่วงตอกเสาเข็ม เช่น SEAFCO และ PYLON ซึ่งจะเป็น กลุ่มแรกที่เข้าสู่พื้นที่งานก่อสร้าง

shutterstock 1588752748

คงมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นรับเหมา โดยพิจารณาจาก

  1. คาดการณ์ว่าการเมืองจะมีเสถียรภาพมากขึ้น
  2. นโยบายสนับสนุนธุรกิจของรัฐบาล
  3. การเร่งรัดโครงการโครงการเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาลชุดใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยให้น้ำหนักผู้รับเหมางานโยธามากกว่าผู้รับเหมางานตอกเสาเข็ม

ดังนั้น จึงแนะนำ ซื้อ” หุ้น CK หรือ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ราคาเป้าหมาย 30.25 บาทต่อหุ้น โดยพิจารณาจาก backlog ที่สูงเป็นประวัติการณ์ และแนะนำ ซื้อ” หุ้น STEC หรือ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) ราคาเป้าหมาย 15.03 บาทต่อหุ้น เพราะเป็นหุ้น laggard เด่น

เมกะโปรเจกต์อื่น ๆ ที่อยู่ในระหว่างดำเนินการ และคาดว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะยื่นประมูล หรือสรุปในไตรมาส 4/66 ถึงไตรมาส 2/67 ประกอบไปด้วย

  • การเซ็นสัญญา MRT สายสีส้ม มูลค่า 96,000 ล้านบาท
  • ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี มูลค่า 37,500 ล้านบาท
  • ชุมทางถนนปากน้ำโพ-เด่นชัย มูลค่า 62,800 ล้านบาท
  • ส่วนต่อขยาย SRT สายสีแดง มูลค่า 22,000 ล้านบาท
  • เส้นทางมอเตอร์เวย์ M5 M8 และ M9

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน