เกิดขึ้นไม่บ่อยนักสำหรับการเสนอขายหุ้น IPO ในวันแรก ที่ราคาจะเคลื่อนไหวร้อนแรงชนิดขึ้นสุดลงสุดแบบนี้ โดยกรณีของหุ้น WINDOW หรือ บริษัท วินโดว์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2566 ราคาเสนอขาย 2.10 บาท พาร์ 0.50 บาท
เพียงวันแรกที่เปิดตลาด ราคาหุ้นก็พุ่งขึ้นอย่างน่าตื่นเต้น เปิดเทรดเหนือจองที่ 2.84 บาท เพิ่มขึ้นกว่า +35% จากราคา IPO 2.10 บาท ทว่ายังไม่พ้นปิดตลาดภาคเช้า หุ้น WINDOW กลับถูกเทขายออกมา จนราคาดิ่งลงเรื่อย ๆ กระทั่งหลุดราคาจองซื้อ พร้อมปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง
บทสรุปวันแรกของการซื้อขาย WINDOW ปิดตลาดที่ 1.27 ลดลง 0.83 จุด หรือ -39.52% กลายเป็นหุ้นน้องใหม่ ที่เปิดวันแรกต่ำกว่าราคา Floor ปกติ (ราคาซื้อขายสูงสุด หรือต่ำสุดในวันแรกของหุ้น IPO สามารถเปลี่ยนแปลงได้ไม่เกิน 3 เท่าของราคาเสนอขาย) และรับตำแหน่ง หุ้น IPO ที่ติดลบมากที่สุดรอบ 2 ปี
สถิติที่น่าสนใจอีกอย่างคือมูลค่าการซื้อขายหุ้น WINDOW วันแรก อยู่ที่ 1,570 ล้านบาท มากกว่ามูลค่าบริษัทตัวเอง ณ ปัจจุบันเสียอีก ซึ่งอยู่ที่ 1,127 ล้านบาท
คำถามคือ เกิดอะไรขึ้น
เชื่อว่าแต่ละคนก็คงมีคำตอบในใจกันไปต่าง ๆ นา ๆ อาทิ ภาวะตลาดไม่เอื้ออำนวย การตั้งราคาเสนอขายที่สูงเกินไป กลุ่มที่ได้สิทธิ์จองหุ้นถล่มขายออกมาทำกำไร รวมไปถึงประเด็นที่มีหุ้นเดิม ที่ไม่ติด “ไซเลนต์ พีเรียด” กว่า 53 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 6% ของจำนวนหุ้นสามัญ ที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด
ทั้งนี้ WINDOW เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจผลิต และจำหน่ายประตู และหน้าต่าง โดยนำทั้งเส้นอลูมิเนียม (Aluminium) และเส้นยูพีวีซี (Unplasticized Polyvinyl Chloride: UPVC) มาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในกระบวนการผลิต ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ประตู และหน้าต่าง ที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน
ผลิตภัณฑ์ของบริษัท มีทั้งส่วนที่บริษัทผลิต และจัดจำหน่ายภายใต้ตราสินค้าของบริษัทเอง ผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า วินโดว์ เอเชีย (Window Asia) วินด์เฟม (Wind Fame) เฟรมเม็กซ์ (FRAMEX) และเอ็นโซ (Enzo) และส่วนที่บริษัทรับจ้างผลิต และจัดจำหน่ายภายใต้ตราสินค้าของลูกค้า (OEM)
รายได้ของ WINDOW ระหว่างปี 2563-2565 เท่ากับ 748 ล้านบาท 836 ล้านบาท และ 913 ล้านบาท ตามลำดับ ปัจจัยหลักที่ทำให้รายได้เติบโตเพิ่มขึ้นมาจากการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าของบริษัท ส่งผลให้ปริมาณการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประตูและหน้าต่างเพิ่มขึ้นตามไปด้วยอย่างต่อเนื่อง
ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 73 ล้านบาท 99 ล้านบาท และ 75 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งปรับตัวลดลงจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์ ประกอบกับการรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนใน บมจ.เคหะสุขประชา ซึ่งเป็นบริษัทร่วมที่บริษัทเข้าไปร่วมทุน
การเสนอขาย IPO ของหุ้น WINDOW ที่จำนวนไม่เกิน 244.2 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 27.5% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด มูลค่าที่ตราไว้ 0.5 บาทต่อหุ้น โดยราคา IPO คิดเป็น historical P/E ที่ประมาณ 35.8 เท่า คิดเทียบกับ P/E กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (CONMAT) 14.1 เท่า ก็ต้องบอกว่าแพงพอสมควร
ทั้งนี้ มุมมองบทวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก ให้ราคาเหมาะสมหุ้น WINDOW ที่ 2.20 บาท ขณะที่ บล. ทิสโก้ ระบุว่าราคา IPO ที่ 2.10 บาทนั้น สูงกว่าราคาเหมาะสมที่ประเมินไว้ จึงแนะนำรอราคาปรับลงมา จนมีส่วนลดจากราคาเหมาะสมที่เพียงพอก่อนกลับเข้าซื้อเพื่อลงทุน โดยให้ราคาเหมาะสมไว้ที่ 1.68 บาท
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปิดโผ 5 หุ้นเด่น คัดเน้นๆ โดยสมาคมนักวิเคราะห์
- ลุ้นหุ้นไตรมาส 4 พลิกกลับเป็นขาขึ้น แนวต้าน 1,550 จุด ส่อง 7 หุ้นเด่นน่าลงทุน
- ดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ช่วยเพิ่มกำไรหุ้นแบงก์แค่ไหน