Stock

เทียบฟอร์มไตรมาส 3 หุ้นธนาคารพาณิชย์ ‘BBL-KBANK-SCB’ แกร่งแค่ไหน

“หุ้นธนาคารพาณิชย์” ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 ออกมาครบถ้วนแล้ว

โดยภาพรวมพบว่า ทำกำไรสุทธิไตรมาส 3/66 รวมกัน 59,472 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ช่วง 9 เดือนแรกของปี สามารถทำกำไรสุทธิรวมกัน 181,390 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

หุ้นธนาคารพาณิชย์

การเติบโตส่วนใหญ่มาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยจะเห็นว่าธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ มักได้ผลบวกมากกว่าธนาคารขนาดกลาง และขนาดเล็ก

ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยก็เพิ่มขึ้นจากปัจจัยที่แตกต่างกันไป เช่น การขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อในประเทศ การปรับกลยุทธ์ด้านสินเชื่อและเงินฝาก รวมทั้งการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย และบริหารคุณภาพสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

บทความนี้ เราจึงได้สรุปผลการดำเนินงานของ 3 ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK และ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB มาฝากทุกคน เพื่อให้เห็นภาพการลงทุนชัดเจนขึ้น

หุ้นธนาคารพาณิชย์

BBL ท็อปฟอร์มกำไรโตสูงสุด

ธนาคารกรุงเทพ หรือ หุ้น BBL รายงานไตรมาส 3/66 มีกำไรสุทธิ 11,350 ล้านบาท เติบโต 48.20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 7,657 ล้านบาท ถือเป็นธนาคารที่กำไรเพิ่มขึ้นโดดเด่นสุดในไตรมาสนี้ สาเหตุหลักนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 

ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยเท่ากับ 34,140 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.80% แต่ในฝั่งของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอยู่ที่ 8,443 ล้านบาท ลดลง 17.3% นอกจากนี้ BBL ได้ตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) เพิ่มขึ้น 8,969 ล้านบาท ส่งผลให้ภาพรวม 9 เดือนของปี 2566 มีจำนวนเงินตั้งสำรองอยู่ที่ 26,323 ล้านบาท

มุมมองการลงทุนโดยสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA Consensus) จากทั้งหมด 18 โบรกเกอร์ ให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ยหุ้น BBL อยู่ที่ 196.57 บาทต่อหุ้น (มุมมอง ณ วันที่ 23 ตุลาคม 2566)

หุ้นธนาคารพาณิชย์

KBANK โกยกำไร 9 เดือนมากที่สุด

ธนาคารกสิกรไทย หรือ หุ้น KBANK ประกาศงบไตรมาส 3/66 มีกำไร 11,282 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.69% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 10,574 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยที่เติบโต แต่ธนาคารยังคงมีการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ไว้ในระดับสูงที่ 12,793 ล้านบาท เพื่อรองรับเหตุกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว พร้อมจับความตึงเครียดในอิสราเอลอย่างใกล้ชิด 

อย่างไรก็ดี หากนับภาพรวมงวด 9 เดือนแรกปีนี้ KBANK คือธนาคารที่มีกำไรสุทธิมากที่สุดที่ระดับ  33,017 บาท เพิ่มขึ้น 1.35% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ มุมมองการลงทุนโดยสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA Consensus) จากทั้งหมด 7 โบรกเกอร์ ให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ยหุ้น KBANK อยู่ที่ 151.18 บาทต่อหุ้น (มุมมอง ณ วันที่ 23 ตุลาคม 2566)

หุ้นธนาคารพาณิชย์

SCB เน้นวางรากฐานมั่นคง ตั้งสำรองพิเศษรองรับความเสี่ยง

เอสซีบี เอกซ์ หรือ หุ้น SCB มีกำไรสุทธิไตรมาส 3/66 จํานวน 9,663 ล้านบาท ลดลง 6.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 10,309 ล้านบาท เป็นเพราะบริษัทมีการตั้งสํารองพิเศษเพิ่มอีก 1,500 ล้านบาท เพื่อรองรับความเสี่ยงในอนาคต จากสถานการณ์ภูมิรัฐศาตร์ที่มีความไม่แน่นอนสูงขึ้น ทำให้มีการตั้งสำรองในไตรมาสนี้อยู่ที่ 12,245 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 

สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี SCB มีกำไรสุทธิจำนวน 32,527 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% โดยในส่วนของธนาคารไทยพาณิชย์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักในกลุ่ม นั้นมีกำไรสุทธิในไตรมาส 3 จำนวน 11,782 ล้านบาท ลดลง 6.3% และมีกำไรสุทธิสำหรับ 9 เดือนแรกของปีจำนวน 36,627 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.2%

ทั้งนี้ มุมมองการลงทุนโดยสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA Consensus) จากทั้งหมด 10 โบรกเกอร์ ให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ยหุ้น SCB อยู่ที่ 130.55 บาทต่อหุ้น (มุมมอง ณ วันที่ 23 ตุลาคม 2566)

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน