Stock

‘ดาวโจนส์’ ปิดพุ่งกว่า 300 จุด รับความหวังผลประกอบการสดใส

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (16 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” พุ่งขึ้นกว่า 300 จุด แรงหนุนจากมุมมองบวกเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่นักลงทุนยังจับตาสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 33,984.54 จุด เพิ่มขึ้น 314.25 จุด หรือ +0.93% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,373.63 จุด เพิ่มขึ้น 45.85 จุด หรือ +1.06% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 13,567.98 จุด เพิ่มขึ้น 160.75 จุด หรือ +1.20%

ดาวโจนส์

นักวิเคราะห์ชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าบริษัทจดทะเบียนจะรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2566 ที่แข็งแกร่ง แม้ต้องเผชิญกับภาวะอัตราดอกเบี้ยสูง และความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นนิวยอร์กเผชิญกับความตื่นตระหนกจากเหตุการณ์สู้รบในตะวันออกกลาง แต่ขณะนี้ดูเหมือนว่านักลงทุนเริ่มซึมซับสถานการณ์ดังกล่าว และหันมาจับตาปัจจัยพื้นฐานของตลาด รวมทั้งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

ขณะที่นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐกำลังจับตาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากความขัดแย้งดังกล่าว แต่ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่าเหตุการณ์นี้จะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ โดยจะขึ้นอยู่กับว่าความขัดแย้งจะลุกลามออกไปนอกอิสราเอลและฉนวนกาซาหรือไม่

ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ แบงก์ ออฟ อเมริกา จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เน็ตฟลิกซ์ และเทสลา จะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ หลังจากบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่หลายแห่งรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2566 ที่แข็งแกร่งเกินคาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน ซิตี้กรุ๊ป และยูไนเต็ดเฮลธ์

นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นเป็นวงกว้าง ซึ่งช่วยให้หุ้นทั้ง 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดในแดนบวก โดยหุ้นกลุ่มขนส่งและกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยได้รับแรงซื้ออย่างคึกคัก

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์ก (Economic Club of New York) ในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 31 ตุลาคม-1 พฤศจิกายน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo