Stock

‘ดาวโจนส์’ ปิดลบ 173.73 จุด วิตกเฟด ‘ขึ้นดอกเบี้ย’ หลังเงินเฟ้อสูงเกินคาด

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (12 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ร่วงลง 173.73 จุด  เนื่องจากนักลงทุนกลับมาวิตกอีกครั้ง เกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หลังมีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงเกินคาด และตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 33,631.14 จุด ลดลง 173.73 จุด หรือ -0.51% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,349.61 จุด ลดลง 27.34 จุด หรือ -0.62% และดัชนี แนสแด็กปิดที่ 13,574.22 จุด ลดลง 85.46 จุด หรือ -0.63%

ดาวโจนส์

ในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มของดัชนีเอสแอนด์พี 500 นั้น หุ้นกลุ่มวัสดุปรับตัวลงมากที่สุด 1.5% ขณะที่การปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ส่งผลกดดันต่อหุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย อาทิ กลุ่มสาธารณูปโภคลดลง 1.5% และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ลดลง 1.3%

ส่วนหุ้นบวกสวนตลาดได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ ปรับตัวขึ้น 0.1% และกลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้น 0.09%

นักลงทุนวิตกว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นการประชุมนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายในปีนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สูงกว่าคาดในเดือนกันยายน  และตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง และจะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 35.7% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 5.50-5.75% ในการประชุมเดือนธันวาคม หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 26.3% เมื่อวันพุธ (11 ต.ค.)

ตลาดหุ้นสหรัฐ ยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังการเปิดเผยดัชนี CPI และตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงาน

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหาร และพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.7% ในเดือนกันยายนเมื่อเทียบรายปี และเพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบรายเดือน ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหาร และพลังงาน ปรับตัวขึ้น 4.1% เมื่อเทียบรายปี และปรับขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน

กระทรวงแรงงานสหรัฐ ยังเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ทรงตัวที่ระดับ 209,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 210,000 ราย และเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน ที่ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกต่ำกว่าระดับ 210,000 ราย

บรรดานักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ โดยธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐ อาทิ เจพีมอร์แกน เชส เวลส์ ฟาร์โก และซิตี้กรุ๊ป จะเปิดเผยผลประกอบการในวันนี้ (13 ต.ค.)

นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลาง หลังกลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอลเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (7 ต.ค.) และการสู้รบยังคงดำเนินอยู่

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo