Stock

‘ดาวโจนส์’ ปิดลบ 68.61 จุด กังวลเงินเฟ้อ หนุนเฟดคงดอกเบี้ยสูง

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดลบในวันพุธ (27 ก.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน แรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ที่ดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 15 ปี รวมทั้งความกังวลว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน อาจทำให้เกิดเงินเฟ้อ และส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์  ปิดที่ 33,550.27 จุด ลดลง 68.61 จุด หรือ -0.20% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,274.51 จุด เพิ่มขึ้น 0.98 จุด หรือ +0.02% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 13,092.85 จุด เพิ่มขึ้น 29.24 จุด หรือ +0.22%

ดาวโจนส์

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.622% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 15 ปี หลังจากเฟดส่งสัญญาณคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานขึ้นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่าการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันอาจทำให้เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นด้วย

นักวิเคราะห์ชี้ว่า บรรยากาศการซื้อขายในตลาด ถูกกดดันจากความกังวลว่าปัญหาเงินเฟ้อในสหรัฐ อาจจะผลักดันให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาด ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของบริษัทต่าง ๆ ปรับตัวสูงขึ้นด้วย

ตลาดจะยังคงเผชิญกับความผันผวนต่อไปในอีกหลายสัปดาห์ข้างหน้า แต่ก็คาดว่านักลงทุนจะเริ่มเข้ามาช้อนซื้อหุ้นในช่วงปลายเดือนตุลาคม จนถึงปลายปีนี้

ดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ร่วงลง 1.9% ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 2.5% หลังจากราคาน้ำมัน WTI ทะยานขึ้นกว่า 3% ภายหลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาด

นักลงทุนจับตาความคืบหน้าของสภาคองเกรสในการผ่านร่างงบประมาณชั่วคราว ซึ่งหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงภายในวันที่ 30 กันยายน ก็จะทำให้มีการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ หรือชัตดาวน์ในวันที่ 1 ตุลาคม

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2566 ในวันนี้ และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนสิงหาคมในวันศุกร์นี้ รวมทั้งการแสดงความเห็นของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในการประชุมทาวน์ฮอลล์ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo