ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (5 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ลดลงมาเล็กน้อย 57.48 จุด แรงกดดันจากบอนด์ยีลด์พุ่ง และเศรษฐกิจจีนอ่อนแอ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 34,780.23 จุด ลดลง 57.48 จุด หรือ 0.16% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,509.92 จุด ขยับลงมา 5.85 จุด หรือ 0.13% และดัชนีแนสแด็กที่ 14,037.56 จุด เพิ่มขึ้น 5.75 จุด หรือ 0.04%
การดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก รวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองของสหรัฐ จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายลดน้อยลง และบริษัทต่างๆ จะเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ทำให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
ขณะเดียวกัน จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการ ร่วงลงสู่ระดับ 51.8 ในเดือนสิงหาคม ต่ำสุดในรอบ 8 เดือน ผลกระทบจากการชะลอตัวของอุปสงค์ ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไม่สามารถผลักดันการบริโภคในประเทศได้
นักลงทุนเทน้ำหนักมากกว่า 90% ในการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หลังการเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (1 ก.ย.)
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 93.0% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 19-20 กันยายน และให้น้ำหนักเพียง 7.0% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 5.50-5.75%
นักลงทุนมองว่าอัตราการว่างงานที่พุ่งขึ้นในรายงานดังกล่าว รวมทั้งตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเงินเฟ้อ จะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดยุติการขึ้นดอกเบี้ยในวัฏจักรปัจจุบัน แม้ว่าตัวเลขการจ้างงานสูงกว่าคาด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คัด 7 หุ้นเด่นเดือนกันยายน ช่วงเยียวยา SET Index ตลาดโลกผันผวน-การเมืองราบรื่น
- ‘โกลด์แมน แซคส์’ คาด ‘เฟด’ เริ่มหั่นดอกเบี้ยไตรมาส 2 ปี 67
- ‘ยูบีเอส’ ชี้ ตัวเลข ‘เงินเฟ้อ’ สหรัฐ ต่ำกว่าคาด หนุน ‘เฟด’ ยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น