ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (12 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” พลิกกลับมาอยู่ในแดนลบ ร่วงกว่า 100 จุด หลังในช่วงเปิดตลาดเคลื่อนไหวในแดนบวก เนื่องจากดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 33,195.06 จุด ร่วงลง 114.45 จุด หรือ 0.34% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,112.20 จุด ลดลง 18.42 จุด หรือ 0.45% และดัชนีแนสแด็กที่ 12,248.30 จุด ขยับลงมา 80.21 จุด หรือ 0.65%
ตลาดปรับตัวขึ้นในช่วงแรก โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร ก่อนที่จะร่วงลงในเวลาต่อมา หลังผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงในเดือนพฤษภาคม มาอยู่ที่ระดับ 57.7 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 63.0 และลดลงจากระดับ 63.5 ในเดือนเมษายน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และวิกฤติภาคธนาคาร
นอกจากนี้ ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะแตะระดับ 4.5% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า สำหรับในช่วง 5 ปีข้างหน้า ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะแตะระดับ 3.2% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2551
ราคาหุ้นเทสลา บริษัทรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของสหรัฐ ดีดตัวขึ้นในวันนี้ หลังนายอีลอน มัสก์ เปิดเผยว่า เขาจะลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของทวิตเตอร์ภายในเวลา 6 สัปดาห์ เพื่อไปรับตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี ซึ่งจะรับผิดชอบด้านผลิตภัณฑ์ ซอฟต์แวร์ และการปฏิบัติการด้านระบบ
ราคาหุ้นเทสลาพุ่งขึ้นขานรับข่าวดังกล่าว เนื่องจากก่อนหน้านี้ นักลงทุนพากันกังวลว่า นายมัสก์ให้ความสนใจทวิตเตอร์ จนกระทบต่อการบริหารเทสลา ซึ่งเขาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- นักลงทุนมั่นใจเกิน 83% ประชุมเดือน มิ.ย. ‘แบงก์ชาติสหรัฐ’ ไม่ขึ้นดอกเบี้ย
- ‘ขุนคลังสหรัฐ’ เตือนรับมือ ‘มหันตภัยการเงิน’ หากคองเกรสไม่เพิ่ม ‘เพดานหนี้’
- ‘ไอเอ็มเอฟ’ เพิ่มคาดการณ์ ‘เศรษฐกิจเอเชีย’ ปี 66 โต 4.6% หั่นจีดีพีไทย เหลือ 3.4%