Stock

‘CK-BEM’ สุดแกร่ง! ปี 66 ทำนิวไฮ Backlog ทะลุ 2.5 แสนล้าน ทางด่วน-รถไฟฟ้า กลับมาคึกคัก

CK-BEM สุดแกร่ง ปี 2566 ทำนิวไฮ Backlog ทะลุ 2.5 แสนล้าน ทางด่วน-รถไฟฟ้า กลับมาคึกคัก

นายพงษ์สฤษดิ์ ตันติสุวณิชย์กุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK และกรรมการบริหาร บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM แถลงมั่นใจทุกบริษัทในกลุ่ม CK มีผลการดำเนินงานดีทั้งกลุ่ม และปี 2566 จะเป็นปีที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ของ CK และ BEM รายได้กำไรของ BEM จะทำ New High รวมถึง Backlog ของ

BEM

CK จะทำสถิติสูงสุดในรอบ 50 ปี ตอกย้ำโมเดลธุรกิจของ CK มาถูกทาง

นายพงษ์สฤษดิ์ เปิดเผยว่าปี 2565 ที่ผ่านมา BEM มีรายได้ 14,030 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3,304 ล้านบาท หรือ 30.8% กำไรสุทธิ 2,436 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1,426 ล้านบาท หรือ 141.2% ผลจากการที่ปริมาณจราจร และปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้ากลับมาสู่ภาวะปกติ และดีกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด

โดยมีปริมาณผู้ใช้ทางด่วน 1.04 ล้านเที่ยวต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 22.4% และปริมาณผู้โดยสาร Blue Line 270,000 เที่ยวต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 84.5% ปัจจุบันปริมาณผู้โดยสารอยู่ที่ 400,000 เที่ยวต่อวัน คาดว่าในปี 2566 ปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าจะมากกว่า 420,000 เที่ยวต่อวัน ซึ่งสูงกว่าเมื่อเทียบกับก่อนเกิดโควิด เนื่องจาก Blue Line เปิดเดินรถครบลูป และปริมาณผู้ใช้ทางด่วนจะกลับมา 100% ส่งผลให้กำไรในปี 2566 เพิ่มขึ้นกว่าปี 2565 อย่างแน่นอน

ในส่วนของ Orange Line BEM เป็นผู้ชนะการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน ขณะนี้อยู่ระหว่างกระทรวงคมนาคมเสนอครม.เห็นชอบ เพื่อลงนามในสัญญา เชื่อมั่นว่ารัฐต้องเร่งรัด เพราะโครงการมีความสำคัญต่อระบบขนส่งมวลชน และโครงการล่าช้ามากว่า 3 ปีแล้ว ทำให้มีค่าใช้จ่าย และต้นทุนดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น

หาก BEM ลงนามในสัญญา ก็มีความพร้อมที่จะดำเนินการได้ทันที ทั้งในเรื่องของเงินลงทุน และผู้รับเหมาได้แก่ CK ที่มีศักยภาพ และประสบการณ์ในการก่อสร้าง Project ขนาดใหญ่ ซึ่ง BEM มั่นใจว่าสามารถเปิดให้บริการ Orange Line ฝั่งตะวันออกได้ภายใน 3 ปีครึ่ง ก่อนกำหนดในสัญญาแน่นอนและฝั่งตะวันตกจะเปิดได้ภายใน 6 ปี หลังลงนามสัญญา

นายพงษ์สฤษดิ์ เปิดเผยว่า งานโครงการที่สำคัญและอยู่ระหว่างการเจรจากับภาครัฐได้แก่ โครงการ Double Deck อยู่ระหว่างเจรจาในเบื้องต้นกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ควบคู่ไปกับการรอผลการจัดทำ EIA ของ กทพ. คาดว่าในสิ้นปีนี้จะมีความชัดเจน

BEM
พงษ์สฤษดิ์ ตันติสุวณิชย์กุล

ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการแก้ไขสัญญาตามพรบ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ซึ่งจำเป็นต้องเร่งก่อสร้างเพื่อแก้ปัญหารถติด นอกจากนี้ โครงการ Purple Line ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กำลังเร่งรัดดำเนินโครงการโดย BEM พร้อมเจรจาทันทีที่ รฟม.ได้ศึกษาตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.การร่วมลงทุนฯ แล้วเสร็จ ส่วนโครงการอื่น ๆ ของภาครัฐ BEM ก็มีความพร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลทุกรูปแบบอย่างเต็มที่

สำหรับในส่วนของ CK นายพงษ์สฤษดิ์ เปิดเผยว่า 1-2 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจชะลอตัวทำให้ผลประกอบการปี 2564 มีรายได้ก่อสร้าง 12,198 ล้านบาท ขณะที่ปี 2565 มีรายได้ก่อสร้าง 18,097 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.35% กำไรสุทธิ 1,105 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จำนวน 199 ล้านบาท คิดเป็น 21.96%  มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 7.66%

ปัจจุบัน Backlog มูลค่ารวม 55,867 ล้านบาท จากโครงการ Purple Line ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ และโครงการ Double Track ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และปี 2566 มีโครงการสำคัญที่มีความชัดเจนอยู่ 2 โครงการ ซึ่งจะลงนามสัญญาภายในปีนี้ มูลค่า 98,000 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้างโครงการ 7 ปี ส่วนงานก่อสร้างก็สามารถเริ่มได้ภายในปีนี้ ส่งผลให้ Backlog ไตรมาสแรกปี 2566 ทะลุกว่า 150,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีโครงการ Purple Line ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ คาดว่า BEM จะลงนามได้ในไตรมาสที่ 3 ทำให้มี Backlog เพิ่มขึ้น 109,216 ล้านบาท จึงทำให้ภายในไตรมาส 3 CK จะมี Backlog กลับมาที่ 250,000 ล้านบาท ถือเป็นการทำสถิติใหม่ (New High) ในรอบ 50 ปี ทำให้คาดว่าในอีก 7-8 ปี CK จะมีรายได้ปีละ 25,000- 30,000 ล้านบาท กำไรขั้นต้น 7-8% ได้อย่างมั่นคง

BEM

นายพงษ์สฤษดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับภาพรวมปี 2566 ถือเป็นปีที่ CK กลับมาเป็นปกติ จากงานก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับมีการควบคุมต้นทุนที่ดี ทำให้มีกำไรดีขึ้นต่อไปเรื่อย ๆ และบริษัทในกลุ่ม ช.การช่าง ได้แก่ BEM ,TTW, CKP จะมีรายได้เพิ่มขึ้น ประกอบกับต้นทุนทางการเงินที่ต่ำ ส่งผลให้ทุกบริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้น และมีปันผลที่ดี

โดยปัจจุบัน CK ถือหุ้น BEM รวมทั้งสิ้นกว่า 35% เพราะมั่นใจในศักยภาพของ BEM และยังมีโอกาสในการเข้ารับงานจากโครงการทางด่วน และรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายต่าง ๆ ในอนาคต และงานประมูลโครงการอื่น ๆ อาทิ โครงการ Airport โครงการ Double Track โครงการ Motorway ซึ่ง CK และ BEM มีประสบการณ์ มีความพร้อมและศักยภาพอย่างมากในการเข้าไปดำเนินงานให้กับภาครัฐ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo