ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (24 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ดิ่งเกือบ 400 จุด เหตุนักลงทุนพากันเทขายหุ้น หลัง ดัชนี PCE สูงเกิดคาด ทำให้เกิดกระแสคาดการณ์มากขึ้นว่า “เฟด” จะขึ้นดอกเบี้ยแรงต่อไป เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ที่ทำให้นักลงทุนวิตกว่าจะส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้จากต่างประเทศ ทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังดีดตัวสูงขึ้น จนเกิดภาวะ inverted yield curve ที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้น สูงกว่าพันธบัตรระยะยาว ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 32,788.15 จุด ร่วงลง 365.76 จุด หรือ 1.10% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,960.93 จุด ลดลง 51.39 จุด หรือ 1.28% และดัชนีแนสแด็ก ที่ 11,383.59 จุด ดิ่งแรง 206.81 จุด หรือ 1.78%
นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยแรงกว่าคาด เพื่อสกัดเงินเฟ้อ หลังดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พุ่งเกินคาดตอกย้ำว่า เงินเฟ้อยังไม่ผ่านจุดสูงสุด หลังก่อนหน้านี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ก็สูงกว่าที่ประเมินไว้
นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมีนาคม และคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับสูงสุดที่ 5.25-5.50% ในเดือนมิถุนายน ก่อนคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวตลอดทั้งปีนี้ โดยไม่มีการลดดอกเบี้ย จากเดิมที่คาดว่า จะลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธันวาคม
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดีดตัวขึ้น 5.4% ในเดือนมกราคม เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าระดับ 5.3% ในเดือนธันวาคม และเมื่อเทียบรายเดือน เพิ่มขึ้น 0.6% สูงกว่าระดับ 0.2% ในเดือนก่อนหน้านั้น
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 4.7% ในเดือนมกราคม เมื่อเทียบรายปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 4.4% และเมื่อเทียบรายเดือน ปรับตัวขึ้น 0.6% สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 0.5%
ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนี CPI
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ไอเอ็มเอฟ’ ประเมินเศรษฐกิจโลกปี 66 ขยายตัว 2.9% คงคาดการณ์เศรษฐกิจไทยโต 3.7%
- คาดเลือกตั้งดันเศรษฐกิจไตรมาส 2 โต 1-1.5% เงินสะพัด 5 หมื่นล้าน!
- ยูเอ็น คาด เศรษฐกิจโลกปี 66 โตแค่ 1.9% ‘สงครามยูเครน-เงินเฟ้อ’ สาเหตุหลักสกัดการขยายตัว