ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ขยับขึ้นมาเล็กน้อย แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 33,776.24 จุด เพิ่มขึ้น 76.36 จุด หรือ 0.23% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,083.22 จุด ขยับขึ้นมา 1.72 จุด หรือ 0.04% และดัชนีแนสแด็กที่ 11,723.51 จุด ลดลง 66.07 จุด หรือ 0.56%
ล่าสุด บริษัทในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ราว 70% ได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 4/2565 แล้ว โดยบริษัทในกลุ่มดังกล่าวจำนวน 70% รายงานผลกำไรที่ดีกว่าคาด
ขณะที่นักลงทุน ยังกังวลเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายรายออกมาเตือนในเรื่องดังกล่าว
นอกจากนี้ ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve ในวันนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นดีดตัวเหนือพันธบัตรระยะยาว ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ที่ผ่านมา ภาวะ inverted yield curve มักเกิดขึ้นจากการที่นักลงทุนพากันเทขายพันธบัตรระยะสั้น และเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาว ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในระยะสั้น โดยนักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะได้รับผลกระทบจากการที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
นักลงทุนรอดูการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ รวมทั้งถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ไอเอ็มเอฟ’ ประเมินเศรษฐกิจโลกปี 66 ขยายตัว 2.9% คงคาดการณ์เศรษฐกิจไทยโต 3.7%
- คาดเลือกตั้งดันเศรษฐกิจไตรมาส 2 โต 1-1.5% เงินสะพัด 5 หมื่นล้าน!
- ยูเอ็น คาด เศรษฐกิจโลกปี 66 โตแค่ 1.9% ‘สงครามยูเครน-เงินเฟ้อ’ สาเหตุหลักสกัดการขยายตัว