Stock

‘SPRC’ โฉมใหม่ ธุรกิจน้ำมันครบวงจร หลังเข้าซื้อกิจการ

ผู้ถือหุ้น SPRC หรือ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ได้อนุมัติแผนเข้า ซื้อกิจการ มูลค่า 5,562.5 ล้านบาท ครอบคลุมธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน CALTEX กว่า 427 แห่งทั่วประเทศ จากบริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด

รวมถึงเพิ่มการถือหุ้น 9.91% ในบริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด และเพิ่มถือหุ้น 2.51% ในบริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS นอกจากนี้ ยังมีที่ดินแปลงที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และสัดส่วนการใช้ประโยชน์ในคลังน้ำมันเชื้อเพลิงที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสงขลาและจังหวัดสุราษฎร์ธานีด้วย

เท่ากับว่าต่อจากนี้ SPRC จะมีธุรกิจน้ำมันแบบครบวงจร ตั้งแต่ธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน โดยมีผลิตภัณฑ์ เช่น ก๊าซปิโตรเลียมเหลว น้ำมันเบนซินที่เราเติมกัน น้ำมันสำหรับเครื่องบิน และก็ยังมีผลิตภัณฑ์กลุ่มปิโตรเคมี ตลอดจนธุรกิจค้าปลีกน้ำมันที่จะรวมเข้ามาด้วย

อย่างไรก็ดี ต้องบอกว่าทั้ง SPRC และปั๊มน้ำมัน CALTEX มีเจ้าของเดียวกันนั่นคือ เชฟรอน ดังนั้น จึงสามารถมองได้ว่าดีลเป็นการปรับโครงสร้างธุรกิจของกลุ่มให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ด้วยการนำธุรกิจจัดจำหน่ายน้ำมันข้ามาอยู่ภายใต้การบริหารของบริษัทเดียวกัน พร้อมทั้งเป็นการสะท้อนมูลค่าหุ้น SPRC ไปในตัวด้วย

ซื้อกิจการ

คาดการณ์ว่าการควบรวมกิจการครั้งนี้ จะดำเนินการภายในช่วงระยะเวลา 10 ถึง 12 เดือนข้างหน้า หรือภายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567 ซึ่งก็น่าสนใจว่าอีกไม่นานเราจะได้เห็นแบรนด์ปั็มน้ำมันเบอร์ใหญ่แทบทุกรายเข้ามาอยู่ในตลาดหุ้น ขาดเพียงแค่ปั๊ม SHELL เท่านั้น

ในมุมมองของ SPRC ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความสามารถการแข่งขัน และเป็นการขยายธุรกิจเชิงกลยุทธ์ด้านห่วงโซ่คุณค่าที่จะให้บริการลูกค้าในประเทศไทยได้ดียิ่งขึ้น ผ่านการตลาดและจัดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพสูงของบริษัท เนื่องจากสามารถดำเนินธุรกิจการกลั่นและการตลาดได้ครบวงจรมากขึ้น ควบคู่กับการมอบประสบการณ์และบริการให้กับลูกค้าได้ครอบคลุมยิ่งขึ้นผ่านเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันที่มีอยู่ทั่วประเทศ

ในส่วนของเซฟรอน โดย นายแบรนท์ ฟิช ประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์สากล (President of Chevron International Products) เปิดเผยว่า ปัจจุบันเชฟรอนเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ SPRC ในสัดส่วนมากกว่า 60% จึงเล็งเห็นว่าการทำธุรกรรมครั้งนี้จะเป็นการรวมธุรกิจการกลั่นเชื้อเพลิงปิโตรเลียมและการตลาดในประเทศไทยให้มาอยู่ภายใต้โครงสร้างการบริหารจัดการเดียวกัน

ซื้อกิจการ

อีกทั้งการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีการบริหารจัดการโดยอิสระ จึงทำให้ SPRC สามารถสร้างโอกาสในการเติบโตและสร้างผลกำไร ซึ่งจะส่งผลให้เชฟรอนมีความสามารถในการแข่งขันในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นผ่านการดำเนินธุรกิจของ SPRC

ซื้อกิจการ

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น SPRC ถือว่ามีความผันผวนและปรับตัวขึ้นลงตามทิศทางราคาน้ำมันและค่าการกลั่น อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนของราคาหุ้นในรอบ 1 ปี สร้างผลตอบแทนสูงกว่า 19% จากการกลับมาเติบโตสร้างกำไรอย่างโดดเด่นของธุรกิจโรงกลั่น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน