ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (3 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น โดย “ดาวโจนส์” ร่วงกว่า 100 จุด หลังข้อมูลจ้างงานแกร่งเกินคาด ทำให้เกิดความวิตกว่า “ธนาคารกลางสหรัฐ” จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุก ทั้งนักลงทุนยังผิดหวังกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 33,926.01 จุด ลดลง 127.93 จุด หรือ -0.38% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,136.48 จุด ลดลง 43.28 จุด หรือ -1.04% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 12,006.96 จุด ลดลง 193.86 จุด หรือ -1.59%
หุ้นทั้ง 11 กลุ่มในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดในแดนลบ โดยหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย และกลุ่มบริการด้านการสื่อสารร่วงลง 3.11% และ 2.22% ตามลำดับ
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 517,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม สูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่จำนวน 187,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2512 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.6% ทั้งยังปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนธันวาคม เป็นเพิ่มขึ้น 260,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่ง
ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ
หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงาน FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้ง ในการประชุมเดือนมีนาคม และเดือนพฤษภาคม แตะระดับสูงสุดที่ 5.00-5.25% ก่อนจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวไปอีกระยะหนึ่ง
นอกจากนี้ สัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังมาจากการที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 55.2 ในเดือนมกราคม จากระดับ 49.2 ในเดือนธันวาคม โดยดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคบริการมีการขยายตัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ไอเอ็มเอฟ’ ประเมินเศรษฐกิจโลกปี 66 ขยายตัว 2.9% คงคาดการณ์เศรษฐกิจไทยโต 3.7%
- คาดเลือกตั้งดันเศรษฐกิจไตรมาส 2 โต 1-1.5% เงินสะพัด 5 หมื่นล้าน!
- ยูเอ็น คาด เศรษฐกิจโลกปี 66 โตแค่ 1.9% ‘สงครามยูเครน-เงินเฟ้อ’ สาเหตุหลักสกัดการขยายตัว
