ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (27 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ปรับตัวสูงขึ้น ขานรับ “จีน” เตรียมเปิดประเทศครั้งแรกในรอบ 3 ปี ในเดือนมกราคมปีหน้า ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์กันไว้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 33,303.39 จุด เพิ่มขึ้น 99.46 จุด หรือ 0.30% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,838.59 จุด ลดลง 6.23 จุด หรือ 0.16% และดัชนีแนสแด็กที่ 10,410.71 จุด ปรับลงมา 87.15 จุด หรือ 0.83%
อย่างไรก็ดี แม้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทดีดตัวขึ้นในวันนี้ แต่ตลาดมีแนวโน้มปรับตัวย่ำแย่ในปีนี้ โดยจะทำสถิติดิ่งลงมากที่สุดเมื่อเทียบรายปีนับตั้งแต่ปี 2551 หลังจากที่ดีดตัวขึ้น 3 ปีติดต่อกัน และขณะนี้ ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 4% นับตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 และแนสแด็ก ทรุดตัวลง 5.8% และ 8.5% ตามลำดับ
หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับจีน เช่น อาลีบาบา และ JD.com ต่างดีดตัวขึ้นขานรับจีนประกาศเปิดประเทศเร็วกว่าคาด โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของจีนแถลงในวันนี้ว่า จีนจะกลับมาดำเนินการออกวีซ่าให้กับชาวจีนที่อาศัยในแผ่นดินใหญ่สำหรับการเดินทางออกนอกประเทศตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566
นอกจากนี้ จีนจะผ่อนคลายมาตรการจัดการเกี่ยวกับโควิด-19 สู่ระดับ Category B จากปัจจุบันที่อยู่ในระดับ Category A ซึ่งเป็นมาตรการป้องกันขั้นสูงสุด
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ตลาดหุ้นโลก’ ส่อแววฟื้นตัวปี 66 อานิสงส์ ‘เงินเฟ้อ’ ผ่านจุดพีค ‘เฟด’ ชะลอความแรงขึ้นดอกเบี้ย
- หุ้นไทยก็ไม่รอด! ‘เจพี มอร์แกน’ มอง ‘หุ้นอาเซียน’ ผันผวนหนักปี 66 เหตุ ‘ดีมานด์’ ต่างประเทศชะลอตัว
- เยลเลน’ คาด ‘เงินเฟ้อ’ สหรัฐชะลอตัวชัดเจนปีหน้า มั่นใจเลี่ยงภาวะ ‘เศรษฐกิจถดถอย’ ได้