Personal Finance

คิดจะเป็น ‘ฟรีแลนซ์’ ต้องเตรียมพร้อม ห้ามหยุด ห้ามพัก ห้ามชะงักเรื่องเงิน!

คิดจะเป็น “ฟรีแลนซ์” ต้องเตรียมพร้อม หากอยากสบายตอนแก่ ห้ามหยุด ห้ามพัก ห้ามชะงักเรื่องเงิน เช็ก 3 Steps วางแผนการเงินสไตล์ฟรีแลนซ์ที่นี่

อาชีพอิสระ หรือ ฟรีแลนซ์ ดูเหมือนจะสบาย ไม่มีกฎเกณฑ์ในการทำงาน มีอิสระในเรื่องของเวลา ไม่ต้องตอกบัตรเข้าออกที่ทำงานเหมือนมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานประจำ แต่เอาเข้าจริง ๆ ฟรีแลนซ์เป็นหนึ่งในอาชีพที่ต้องเคร่งครัดในเรื่องการเงินมากกว่าใครเลยทีเดียว เพราะส่วนมากจะคาดการณ์รายได้ในอนาคตค่อนข้างยาก แถมแต่ละเดือนก็ได้มากได้น้อยไม่เท่ากันและยังได้เงินไม่ตรงเวลาอีก ทำให้ต้องมีความรับผิดชอบต่อตนเองสูง

ฟรีแลนซ์

3 Steps วางแผนการเงินสไตล์ฟรีแลนซ์

1. ตรวจสอบค่าใช้จ่ายและวางแผนจัดสรรการใช้เงิน

ด้วยความที่ฟรีแลนซ์มักจะมีรายได้ในแต่ละเดือนที่ไม่เท่ากัน บางเดือนอาจจะได้เยอะ บางเดือนอาจจะไม่ได้เลย ดังนั้น ในแต่ละครั้งที่ได้รับรายได้เข้ามาจึงต้องจัดสรรเงินและกำหนดงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในแต่ละเดือนก่อน ส่วนที่เหลือค่อยวางแผนการใช้จ่ายให้คุ้มค่าต่อไป โดยแบ่งเงินเป็น 3 ส่วน ตามความจำเป็นและเป้าหมายต่าง ๆ ได้แก่

  • ค่าใช้จ่ายคงที่ ที่ต้องจ่ายทุกเดือนเท่า ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าเบี้ยประกัน ค่าผ่อนชำระสินค้า ฯลฯ
  • ค่าใช้จ่ายผันแปร ที่สามารถเพิ่มหรือลดได้ตามพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันหรือการใช้จ่ายของเรา เช่น ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทาง ค่าพักผ่อนสังสรรค์ ค่ารักษาพยาบาล ฯลฯ
  • เงินออมและเงินลงทุน เพื่อเป้าหมายทางการเงินทั้งในระยะสั้นหรือระยะกลาง เช่น เงินดาวน์บ้าน เงินทุนการศึกษาบุตร และระยะยาว เช่น เงินออมเพื่อเกษียณ เพราะอย่าลืมว่า เราไม่ได้มีสวัสดิการรองรับในยามแก่เฒ่า ก็ต้องวางแผนออมเงินไว้ดูแลตัวเองและครอบครัวในอนาคตด้วย

หลังจากนี้ก็จะรู้แล้วว่า เรามีความจำเป็นจะต้องใช้เงินอย่างแน่นอนเป็นจำนวนเท่าไหร่ และส่วนใดที่เป็นค่าใช้จ่ายที่เราสามารถประหยัดได้ หากเราไม่ได้รับรายได้ตามที่คาดไว้ หรือเกิดเหตุการณ์ที่จำเป็นต้องใช้เงินมากกว่าที่คาดไว้

ฟรีแลนซ์

2. สำรองเงินสำหรับกรณีฉุกเฉินหรือขาดรายได้

เราควรจะสำรองเงินไว้ให้เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 3-6 เดือน เพื่อเป็นหลักประกันของชีวิต หากเราไม่มีงานทำเลย ยังสามารถนำเงินสำรองมาใช้จ่ายเป็นการทดแทนได้ ในขณะเดียวกันก็ควรสำรองเงินเผื่อกรณีฉุกเฉิน สำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เช่น เจ็บป่วย อุบัติเหตุ เพราะฟรีแลนซ์อย่างเราไม่ได้มีสวัสดิการใด ๆ มาช่วยคุ้มครอง หรือทางที่ดีก็อาจจะแบ่งเงินบางส่วนไปซื้อประกันเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงต่าง ๆ จะได้ช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้

ฟรีแลนซ์

3. สร้างหลักประกันให้กับชีวิต

ฟรีแลนซ์อย่างเราที่ไม่ได้มีนายจ้างก็สามารถเลือกเข้าระบบของกองทุนประกันสังคม เพื่อสร้างหลักประกันจากสิทธิประโยชน์ของรัฐบาลได้ เช่น ถ้าเคยเป็นผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 ของกองทุนประกันสังคมมาก่อน แล้วลาออกจากบริษัทมาเป็นฟรีแลนซ์ ก็ควรสมัครเป็นผู้ประกันตน ตามมาตรา 39 เพื่อให้ยังคงได้รับสิทธิประโยชน์เป็นหลักประกันด้านสุขภาพและชราภาพ หรือหากไม่เคยทำงานประจำมาก่อนเลย ก็สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ซึ่งมีทางเลือกในการส่งเงินสมทบเพื่อคุ้มครอง ได้ 3-5 กรณี ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประกันสังคม

นอกจากนี้ หากเราไม่ได้อยู่ในระบบการออมเพื่อเกษียณของภาครัฐ ก็ยังสามารถสมัคร เป็นสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อสร้างหลักประกันเพิ่มเติมในยามเกษียณให้กับตัวเองด้วยอีกทาง เพราะเราก็จะมีสิทธิรับเงินบำนาญทุกเดือนจนกว่าจะสิ้นชีวิต หากสามารถออมเงินได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองทุนการออมแห่งชาติ

ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK