“กสิกรไทย” เปิดสาขาที่ 5 ในจีน เสริมความแกร่งบริการภูมิภาค รองรับการค้าเติบโต มุ่งสู่การเป็น “ธนาคารแห่งภูมิภาค AEC+3” ที่น่าเชื่อถือที่สุด มุ่งเจาะกลุ่มธุรกิจ ที่มีการค้าก’ารลงทุนระหว่างจีน-ไทย ต่อยอดไปยัง “อาเซียน” ตั้งเป้าหมายสร้างรายได้กว่า 5,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี
นายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยดำเนินธุรกิจในฐานะธนาคารท้องถิ่น ที่จีน มาตั้งแต่ปี 2560 โดยมุ่งเน้นบริการที่ช่วยให้ลูกค้าท้องถิ่น เข้าถึงสินเชื่อ เพื่อสร้างโอกาสในการพัฒนาชีวิตและธุรกิจ ภายใต้แนวคิด “Better Me” และ “Better SMEs”
ผ่านช่องทางบริการดิจิทัล ควบคู่กับการเชื่อมต่อลูกค้าธุรกิจจีนกับภูมิภาค AEC+3 ผ่านเครือข่ายบริการในท้องถิ่น ประกอบด้วย 4 สาขาหลัก คือ ฮ่องกง เสิ่นเจิ้น เฉิงตู และนครเซี่ยงไฮ้ โดยมีสาขาย่อย คือ หลงกั่ง และเสิ่นเจิ้น
ล่าสุด ได้เปิดสาขาที่กรุงปักกิ่ง เมืองหลวง และศูนย์กลางหน่วยราชการของจีน นับเป็นสาขาที่ 5 ของธนาคารกสิกรไทย (ประเทศจีน) และถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจของธนาคาร เนื่องจากจีนเป็นตลาดที่มีศักยภาพที่ดี สาขากรุงปักกิ่งจึงทำหน้าที่เสมือนสะพานเชื่อมต่อเศรษฐกิจระหว่างจีน ไทย และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียน
อีกทั้งยังมีแผนการพัฒนาเศรษฐกิจ ที่จะสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับลูกค้าบรรษัท และลูกค้าบุคคลของธนาคารมากมาย ตาม “โครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” (One Belt, One Road Initiative)
สาขากรุงปักกิ่ง จะเป็นศูนย์การทำงานสำคัญแห่งหนึ่งของธนาคารกสิกรไทย (ประเทศจีน) ที่ให้บริการได้ครอบคลุมทั้งลูกค้าบุคคลชาวจีน ที่ใช้บริการสินเชื่อ และกลุ่มลูกค้าธุรกิจจีน ที่ต้องการไปลงทุนในไทยและอาเซียน รวมทั้งการให้บริการแก่ธุรกิจไทย-อาเซียน ที่ต้องการขยายตลาดมายังประเทศจีนด้วย
โดยยึดธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมตามห่วงโซ่คุณค่าของจีน-AEC มุ่งเน้นบริการด้านการลงทุน และสินเชื่อเพื่อการค้าระหว่างประเทศ และการให้สินเชื่อแวลูเชน (Value Chain Financing)
นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายระยะยาวในการเน้นการสร้างพื้นฐานธุรกิจแบบดิจิทัลยุคใหม่ พร้อมกับการดำเนินธุรกิจธนาคารบนพื้นฐานนวัตกรรมการเงิน และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
นายพิพิธ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากเครือข่ายบริการในประเทศจีนแล้ว ธนาคารจะเดินหน้าการทำงานในภูมิภาค AEC+3 อย่างต่อเนื่อง ด้วยการพัฒนาความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้บริการทั้งด้านการเงินและด้านอื่น ๆ อย่างครบครัน ที่ตอบสนองต่อความต้องการในยุคปัจจุบัน
นำเสนอแพลตฟอร์มธนาคารที่อาศัยข้อได้เปรียบจากเครือข่ายบริการของธนาคาร ที่มีในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญทั่วภูมิภาค ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมโยงระหว่างจีน และ AEC+3 อันจะยกระดับการมีส่วนร่วมของธนาคารในยุคดิจิทัลให้มากขึ้น
สอดคล้องกับมีความมุ่งมั่นในการเป็นธนาคารแห่งภูมิภาค AEC+3 ที่น่าเชื่อถือที่สุด (A Regional Bank of Choice) และคาดว่าธนาคารจะสามารถสร้างรายได้ของธนาคารกสิกรไทยในประเทศจีนได้กว่า 5,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี
ปัจจุบัน ธนาคารกสิกรไทย มีเครือข่ายบริการในต่างประเทศครอบคลุมในกลุ่มประเทศ AEC+3 และประเทศอื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 15 แห่ง 8 ประเทศ แบ่งเป็นสาขาธนาคารพาณิชย์ท้องถิ่นจดทะเบียน 6 แห่ง ตั้งอยู่ที่ประเทศจีน 4 แห่ง และลาว 2 แห่ง
มีสาขาต่างประเทศ 4 แห่ง ตั้งอยู่ที่หมู่เกาะเคย์แมน ฮ่องกง กัมพูชา และเวียดนาม มีสำนักงานผู้แทน 5 แห่ง ตั้งอยู่ในจีน ญี่ปุ่น เวียดนาม อินโดนีเซีย เมียนมา และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ธนาคารแมสเปี้ยน อินโดนีเซียอีกกว่า 50 สาขาทั่วประเทศ ให้บริการด้านการเงิน ด้านการให้คำปรึกษาการลงทุนและการจับคู่ธุรกิจ เพื่อช่วยให้การดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ ตลอดจนการผลักดันตัวเอง ให้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจแห่ง AEC+3 เชื่อมโอกาสแก่ลูกค้า ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘กสิกรไทย’ ส่งแอป ‘K PLUS Laos’ เปิดประสบการณ์ ‘การเงินดิจิทัล’ ในลาว
- ‘กสิกรไทย’ ลุย ‘เวียดนาม’ ตั้งเป้าติดกลุ่ม 20 แบงก์ใหญ่สุดใน 4 ปี
- ‘กสิกรไทย’ ทุ่มงบกว่า 6.5 พันล้าน เข้าถือหุ้น ‘ธนาคารแมสเปี้ยน’ อินโดนีเซีย เสริมแกร่งสู่ธนาคารระดับภูมิภาค