ธปท.ชี้เงินบาทอ่อนค่าขึ้น 1.5% เกาะสกุลเงินในภูมิภาคที่อ่อนค่า 0.3-1.7% หลังนักลงทุนกังวล “เฟด” อาจขึ้นดอกเบี้ยแรง ย้ำเงินบาทยังผันผวนสูง แนะป้องกันความเสี่ยง
นางสาวพิมพ์พันธ์ เจริญขวัญ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา เงินบาท และสกุลเงินภูมิภาคเคลื่อนไหวผันผวนทั้ง 2 ทิศทาง ตามภาวะตลาดการเงินโลก จากปัจจัยความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น ในการดำเนินนโยบายการเงินสหรัฐ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนหลังการเปิดประเทศ
การแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อคณะกรรมาธิการประจำวุฒิสภาเมื่อวานนี้ (7 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น เป็นการส่งสัญญาณว่า เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยได้เร็ว และมากกว่าคาด หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ยังสะท้อนความแข็งแกร่ง และเงินเฟ้อยังทรงตัว
ส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดอาจกลับมาดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น และทำให้เงินดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น 1.2% ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าลง 1.5% ใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวของเงินสกุลภูมิภาคที่อ่อนค่าระหว่าง 0.3%-1.7%
ด้านเงินทุนเคลื่อนย้ายโดยรวมตั้งแต่ต้นปี 2566 นักลงทุนต่างชาติมีฐานะขายสุทธิในสินทรัพย์ไทยประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์ โดยเป็นการขายสุทธิในตลาดพันธบัตรที่ 1,200 ล้านดอลลาร์ และตลาดหุ้น 800 ล้านดอลลาร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 3 มี.ค.2566)
ในระยะข้างหน้า ตลาดการเงินโลก และค่าเงินบาท ยังคงมีแนวโน้มผันผวนสูงโดยเคลื่อนไหวได้ทั้ง 2 ทิศทาง จากการปรับเปลี่ยนการดำเนินนโยบายการเงินของสหรัฐ และความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน
ทั้งนี้ ภาคเอกชนจึงควรพิจารณาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาดการเงินที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อาคม’ มอง ‘เงินบาท’ ผันผวนตามปัจจัยภายนอก ‘ธปท.’ ติดตามใกล้ชิด
- ‘ธปท.’ จับตา ‘เงินบาท’ ผันผวน ยังไม่พบเงินทุนไหลออกผิดปกติ
- มีบทเรียนจากปี 40! ‘ผู้ว่า ธปท.’ ยันไม่ฝืนตลาด ชี้ ‘ดอลลาร์’ แข็ง สาเหตุหลักกดดัน ‘เงินบาท’