สำรวจราคาหุ้นยางพาราที่ได้รับอานิสงส์ จากราคายางพุ่งสูงสุดในรอบ 7 ปี มุมมองนักวิเคราะห์ ยังเก็งกำไรต่อได้ไหม
หลังจากที่ล่าสุด “การยางแห่งประเทศไทย” เปิดเผยความเคลื่อนไหวราคายางในปัจจุบัน พบว่าราคาซื้อขายยางแผ่นรมควัน พุ่งทะลุ 90 บาทต่อกิโลกรัมไปแล้ว ถือเป็นราคาสูงที่สุดในรอบ 85 เดือน (7 ปี 1 เดือน) โดยเป็นการปรับตัวสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ราคายางพุ่งสูงสุดในรอบ 7 ปี
ปัจจัยสำคัญที่หนุนราคายางในช่วงนี้มาจากความกังวลว่า ยางจะไม่เพียงพอจากปัญหาเอลนีโญ ทำให้ผลผลิตไม่เพียงพอ ประกอบกับความต้องการของประเทศจีนที่เป็นผู้ใช้ยางพาราที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมไปถึงผู้ผลิตยางรถยนต์กลับมาซื้อยางมากขึ้น หลังก่อนหน้านี้ชะลอการสั่งซื้อออกไป
ราคายางที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ กลายเป็น semtiment เชิงบวกต่อ “หุ้นกลุ่มยางพารา” ให้กลับมาอยู่ในเรดาร์ของนักลงทุนอีกครั้ง และความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นหลายตัวก็ทยอยวิ่งเป็นขาขึ้นรอบใหม่ เพราะว่าธรรมชาติของหุ้นกลุ่มนี้เป็นหุ้น Commodity ที่ขึ้นลงเป็นวัฎจักร มีความผันผวนสูง และเน้นเล่นเก็งกำไรระยะสั้นๆ อยู่แล้ว
สำรวจราคาหุ้นยางพาราที่ได้รับอานิสงส์
1. หุ้น STA หรือ บริษัท ศรีตรัง แอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน)
ราคาปรับเพิ่มขึ้นจากต้นปี 28.83% มาอยู่ที่ 21 บาทต่อหุ้น
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 30,720 ล้านบาท
2. หุ้น STGT หรือ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
ราคาปรับเพิ่มขึ้นจากต้นปี 41.61% มาอยู่ที่ 9.70 บาทต่อหุ้น
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 27,648 ล้านบาท
3. หุ้น NER หรือ บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน)
ราคาปรับเพิ่มขึ้นจากต้นปี 27.02% มาอยู่ที่ 6.30 บาทต่อหุ้น
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 11,271 ล้านบาท
4. หุ้น TEGH หรือ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) TEGH
ราคาปรับเพิ่มขึ้นจากต้นปี 27.86% มาอยู่ที่ 3.58 บาทต่อหุ้น
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 3,866 ล้านบาท
5. หุ้น TRUBB หรือ บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
ราคาปรับเพิ่มขึ้นจากต้นปี 30.23% มาอยู่ที่ 1.68 บาทต่อหุ้น
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 1,136 ล้านบาท
หมายเหตุ: อัปเดตราคาหุ้นล่าสุด ณ วันที่ 15 มีนาคม 2566
มุมมองหุ้นยางพารา ยังเก็งกำไรต่อได้ไหม
บล.ทรีนีตี้ ให้ข้อมูลว่าควรจับตามองหุ้นกลุ่มยางพารา หลังราคายางแท่งและยางแผ่นในตลาดโลก กำลังอยู่ในช่วงทำจุดสูงสุดใหม่ ซึ่งมองเป็น Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นยางพาราในไทย ไม่ว่าจะเป็นหุ้น NER ซึ่งราคาเป้าหมาย Consensus อยู่ที่ 6 บาทต่อหุ้น และหุ้น TEGH ให้ราคาเป้าหมายของฝ่ายวิจัยที่ 3.8 บาทต่อหุ้น
ขณะที่ บล.หยวนต้า ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ได้ปรับราคาเป้าหมายของ STA ขึ้นเป็น 20 บาทต่อหุ้น เพื่อสะท้อนมุมมองการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยางพาราในปี 2567 เป็นต้นไป อีกทั้งคาดว่าผลประกอบการเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส 1/2567 และมีโอกาสกลับมามีกำไรปกติ ตามการกลับมาของคำสั่งซื้อมากขึ้นของลูกค้าในสหรัฐ และยุโรป
ราคายางพุ่ง ต้นเหตุเกิดจาก
ส่วนภาวะภัยแล้งและราคาต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น คาดส่งผลกระทบจำกัดต่อ STA เนื่องจากบริษัทมีการสต๊อกวัตถุดิบไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อน ซึ่งเพียงพอที่จะรองรับการผลิตอีก 3-4 เดือน โดยอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น และการราคาขายเฉลี่ยที่สูงขึ้นจะช่วยหนุนกำไรขั้นต้นให้ฟื้นตัวได้
นอกจากนี้ ประเมินว่าความต้องการยางจากจีนมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง เพราะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจีนที่สูงขึ้น ขณะที่ฝั่ง Supply หดตัวหรือฟื้นได้จำกัด เป็นปัจจัยช่วยหนุนให้แนวโน้มราคายางพารามีโอกาสกลับเป็นทิศทางขาขึ้นต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- พุ่งขึ้นอีก ‘ยางพารา’ ราคาแรงทะลุ 90 บาท สูงสุดในรอบ 7 ปี
- ‘นฤมล’ นำทีมไทยแลนด์ เดินหน้า ‘เพิ่มมูลค่ายาง พาราไทย’ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนแล้วกว่า 4 หมื่นล้านบาท
- ‘เศรษฐา’ แฮปปี้! บอกได้ยินข่าวดีราคายางพาราแตะ 90 บาท พุ่งสูงสุดในรอบ 7 ปี
-
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg