Stock - Finance

เลือกตั้ง 66 : ชี้ชะตาเมืองไทย หุ้นไหนมาแรง?

งวดเข้ามาทุกทีกับการเลือกตั้งสู่การเปลี่ยนผ่านรัฐบาลครั้งใหม่ของประเทศไทย ที่จะมาถึงในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ และเป็นเกมชี้ชะตาอนาคตประเทศไทยเลยว่า จะเดินหน้าต่อเช่นไร รวมไปถึงผลกระทบต่อการลงทุนด้วยเช่นกัน

KKP Research ได้ถอดสูตรสมการและหาคำตอบคาดการณ์ผลการเลือกตั้ง พร้อมมองนโยบายต่างๆ ในมุมที่กว้างขึ้น แม้ผลโพลสำรวจไม่ว่าสำนักไหนก็ชี้ว่าคะแนนนิยมต่อพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลจะนำมาเป็น 2 อันดับแรก แต่หากเรานำเสียงของ ส.ว. เข้ามาคำนวณในสมการแล้ว อาจทำให้การคาดเดาหน้าตารัฐบาลน่าจะออกมาได้ 3 กรณี

กรณี 1 “อยู่ต่อ” 

หากกลุ่มพรรคฝ่ายค้านปัจจุบันไม่สามารถรวบรวมเสียงส่วนใหญ่ได้ คาดว่าผลที่จะตามมาอาจย้อนกลับไปดังเช่นปี 2562 หรือถ้าชนะไม่เยอะมากก็อาจจะมีโอกาสเกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งมองว่ามีโอกาสเกิดขึ้นไม่มากนัก

กรณี 2 “แลนด์สไลด์”

หากกลุ่มพรรคฝ่ายค้านปัจจุบันได้เก้าอี้รวม ส.ส. เกิน 300 เสียงมากๆ และได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. จนครบ 375 เสียง สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะนำไปสู่ความไม่แน่นอนทางการเมืองได้

shutterstock 1728912097 1.jpg11

กรณี 3 “ปรองดอง” 

หากกลุ่มพรรคฝ่ายค้านปัจจุบันจับมือกับพรรครัฐบาลผสมยุคปัจจุบัน และไม่มีข้อขัดแย้งในแง่นโยบาย ผลที่ตามมาจากเคสนี้ คือจะเป็นการจัดตั้งรัฐบาลที่น่าจะมีเสถียรภาพมากที่สุด

สำหรับนโยบายที่แต่ละพรรคได้แถลงผ่านช่องทางต่างๆ หรือแม้แต่บทเวทีดีเบตที่จัดขึ้น KKP Research มองว่าส่วนใหญ่ให้ประโยชน์ระยะสั้น มากกว่าจะเป็นนโยบายระยะยาวเชิงโครงสร้าง แปลว่าแม้ผลการเลือกตั้งจะออกมาเป็นเช่นไร ถ้านโยบายสวัสดิการและนโยบายเยียวยาระยะสั้นถูกนำไปใช้ คาดจะได้เห็นการบริโภคที่เติบโตขึ้นในช่วงต้นปี 2567 หลังจากซบเซาไปนาน ทว่าทุกต้นทุนที่จ่ายออกไปเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น คือ ต้นทุนที่หายไปของการลงทุนและการพัฒนาประเทศระยะยาว

หุ้นเด่นเกาะกระแสเลือกตั้ง

จากข้อมูลในอดีต ตลาดหุ้นไทยจะปรับลดลงโดยเฉลี่ย 7-10% หลังจากยุบสภา เพื่อรอดูผลการเลือกตั้งและนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ และหลังการเลือกตั้งตลาดจะปรับขึ้นโดยเฉลี่ย 12%

สำหรับหุ้น 5 กลุ่มที่เคยให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาดโดยรวมในช่วงเลือกตั้ง ได้แก่ กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มโรงแรม กลุ่มธุรกิจการเงิน กลุ่มค้าปลีกและกลุ่มอาหาร

shutterstock 2294634227

KKP Research แนะนำ 8 หุ้นได้รับประโยชน์ในช่วงเลือกตั้ง ประกอบด้วย CHG หรือ บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน), BCH หรือ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน), GLOBAL หรือ บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน), DOHOME หรือ บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน), CPALL หรือ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน), OSP หรือ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) PLANB หรือ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) และ ADVANC หรือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)

กองทุนแนะนำ คือ TSF-A กองทุนเปิด ทิสโก้ สแตรทิจิก ฟันด์ ชนิดหน่วยลงทุน A กองทุนหุ้นไทยที่บริหารด้วยการกลยุทธ์การลงทุนแบบ High Conviction ในบริษัทจดทะเบียนที่มีโอกาสเติบโตสูง ด้วยมูลค่าที่หมาะสม พร้อมปรับการลงทุนให้เข้ากับสถานการณ์อยู่เสมอ ช่วยสร้างโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

ทั้งหมดนี้เป็นภาพรวมของบทวิเคราะห์จาก KKP Research โดย บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ที่เราได้รวบรวมและสรุปไฮไลท์มาฝากทุกคน เพื่อนำไปปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ รับโอกาสในช่วงเลือกตั้งครั้งใหญ่นี้

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน