“กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แถลงข่าวเปิดตัวหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ “ไพโรจน์ บวรรัตนดิลก” เฮดโค้ชชาวไทยวัย 51 ปี มาคุมทัพในถิ่นเอสซีจี สเตเดี้ยม อย่างเป็นทางการ ทางด้านเจ้าตัวเผยเป็นความท้าทายครั้งสำคัญในอาชีพ สุดปลื้มได้ร่วมงานกับสโมสรที่ยิ่งใหญ่ ขณะที่บอร์ดบริหารเชื่อมั่นประสบการณ์ความสามารถ ตอบโจทย์การทำงานร่วมกัน มั่นใจสโมสรกลับคืนความสำเร็จในฤดูกาลใหม่
เมื่อช่วงบ่ายวันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน 2561 ภายในห้องสื่อมวลชน สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม ได้มีงานจัดแถลงข่าวสโมสร “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ประกาศแต่งตั้ง ไพโรจน์ บวรรัตนดิลก เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ อย่างเป็นทางการ ด้วยสัญญา 1 ปีบวกออปชั่นเพิ่ม พร้อมเปิดตัว มาริโอ ยูรอฟสกี้ จอมทัพตัวเก่งชุดแชมป์ไทยลีกไร้พ่ายปี 2012 มาร่วมทีมในฤดูกาลหน้า โดยภายในงานมีทางคุณ วิลักษณ์ โหลทอง ประธานสโมสรฯ, รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผอ.สโมสรฯ พร้อมเจ้าตัวร่วมแถลงข่าวในดีลครั้งสำคัญ ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชน เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสร “กิเลนผยอง” กล่าวว่า “ถือเป็นอีกวันสำคัญของสโมสร ที่เราจะได้กล่าวต้อนรับ โค้ชไพโรจน์ บวรรัตนดิลก สู่ทีม เอสซีจี เมืองทองฯ อย่างเป็นทางการ ซึ่งอย่างที่ทุกคนทราบถือเป็นโค้ชที่มีประสบการณ์ในไทยลีกมายาวนาน มีความสามารถเป็นที่ยอมรับ และได้ปั้นนักเตะดังมาอย่างมากมาย แน่นอนต้องขอบคุณทางโค้ชที่เลือกทำงานร่วมกับเรา ซึ่งทางบอร์ดบริหารเชื่อมั่นว่าการมาของ โค้ชไพโรจน์ จะเป็นการตอบโจทย์กับสโมสร สไตล์การทำทีมฟุตบอลที่ดุดัน รวมถึงการผลักดันนักเตะจากอะคาเดมี่ พร้อมกลับสู่ความสำเร็จในฤดูกาลใหม่ที่จะถึง สุดท้ายอยากให้แฟนบอลเชื่อมั่น และให้กำลังใจสนับสนุนโค้ชไพโรจน์อย่างเต็มที่”
ขณะที่ ไพโรจน์ บวรรัตนดิลก หัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ เปิดใจต่อสื่อมวลชนว่า “ขอสวัสดีสื่อมวลชนและแฟนบอลทุกท่าน ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก ที่ได้ทำงานร่วมกับสโมสรที่ยิ่งใหญ่อย่าง เอสซีจี เมืองทองฯ ต้องขอบคุณทางผู้บริหารที่เชื่อมั่นในศักยภาพ และความสามารถของผม แน่นอนว่าเป็นความท้าทายครั้งสำคัญในอาชีพโค้ช กับการได้คุมสโมสรชั้นนำของประเทศ ที่เต็มไปด้วยผู้เล่นระดับท็อปของลีก รวมถึงแฟนบอลมากมาย ส่วนเป้าหมายแน่นอนว่าอยากเข้ามาพัฒนาทีม เพื่อกลับมาประสบความสำเร็จร่วมกันในฤดูกาลใหม่นี้ให้ได้”
ปิดท้ายที่ มาริโอ ยูรอฟสกี้ จอมทัพขวัญใจแฟนบอล “กิเลนผยอง” เปิดใจหลังย้ายกลับมาค้าแข้งในถิ่น เอสซีจี สเตเดี้ยม อีกคำรบว่า “มันเป็นความรู้สึกที่พิเศษที่ได้กลับมาร่วมงานกับสโมสรอีกครั้ง เป็นเหมือนการได้กลับมาในที่ๆผมเล่นฟุตบอลได้ดีที่สุดในชีวิต ขอบคุณทางผู้บริหารที่เชื่อมั่นในฝีเท้าและศักยภาพ ยืนยันว่าร่างกายมีความพร้อมที่สุดแล้ว และยังมีความกระหายต่อชัยชนะเหมือนที่ผ่านมา ส่วนความคาดหวังก็อยากเป็นส่วนหนึ่ง ที่จะนำแชมป์ตอบแทนแฟนบอลให้ได้”
