ศาลฎีกายืนคุก “เทพไท-มาโนช” พร้อมตัดสิทธิ์ 10 ปี คดีเลือกตั้ง อบจ.นครศรีธรรมราช
วันนี้ (6 มิ.ย.) ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาเมื่อวันพุธ (6 มิ.ย.) ให้จำคุกนายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และนายมาโนช เสนพงศ์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครศรีธรรมราช เป็นเวลาคนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา แต่เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี
เรื่องนี้เริ่มขึ้นเมื่อนายพิชัย บุณยเกียรติ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ที่ดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2553-2557 ร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ช่วงการเลือกตั้ง นายก อบจ. เมื่อปี 2557 โดยอ้างว่า นายมาโนช และนายเทพไท ซึ่งเป็นพี่น้องกัน ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหลายข้อ อย่างเช่น การจัดเลี้ยงผู้นำในท้องถิ่น และซื้อเสียง
อย่างไรก็ดี ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. นครศรีธรรมราชในปีนั้น ปรากฏว่านายมาโนช ชนะนายพิชัย ด้วยคะแนน 262,943 คะแนนต่อ 192,062 คะแนน
ต่อมาเมื่อปี 2563 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาว่า นายมาโนช และนายเทพไทมีความผิดจริง และให้ลงโทษด้วยการจำคุก 3 ปี แต่ลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือเพียงคนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา และให้ตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี
ระหว่างสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ ศาลรัฐธรรมนูญก็ออกคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2564 ให้นายเทพไทพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. โดยอ้างคุณสมบัติต้องห้ามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่า แม้คดียังไม่สิ้นสุดแต่ถูกศาลสั่งให้จำคุกก็ต้องพ้นจากตำแหน่งราว 4 เดือน ห
ลังจากนั้น ศาลอุทธรณ์ก็อ่านคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ทำให้ 2 พี่น้องตระกูลเสนพงศ์สู้คดีต่อในชั้นฎีกา จนนำมาสู่การเคลื่อนไหวล่าสุด
ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาเมื่อวันพุธ (6 มิ.ย.) ให้จำคุกนายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และนายมาโนช เสนพงศ์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครศรีธรรมราช เป็นเวลาคนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา แต่เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี
เรื่องนี้เริ่มขึ้นเมื่อนายพิชัย บุณยเกียรติ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ที่ดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2553-2557 ร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ช่วงการเลือกตั้ง นายก อบจ. เมื่อปี 2557 โดยอ้างว่านายมาโนชและนายเทพไท ซึ่งเป็นพี่น้องกัน ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหลายข้อ อย่างเช่น การจัดเลี้ยงผู้นำในท้องถิ่น และซื้อเสียง
อย่างไรก็ดี ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. นครศรีธรรมราชในปีนั้น ปรากฏว่านายมาโนชชนะนายพิชัย ด้วยคะแนน 262,943 คะแนนต่อ 192,062 คะแนน
ต่อมาเมื่อปี 2563 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาว่านายมาโนช และนายเทพไทมีความผิดจริง และให้ลงโทษด้วยการจำคุก 3 ปี แต่ลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือเพียงคนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา และให้ตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี
ระหว่างสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ ศาลรัฐธรรมนูญก็ออกคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2564 ให้นายเทพไทพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. โดยอ้างคุณสมบัติต้องห้ามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่า แม้คดียังไม่สิ้นสุด แต่ถูกศาลสั่งให้จำคุก ก็ต้องพ้นจากตำแหน่ง
ราว 4 เดือนหลังจากนั้น ศาลอุทธรณ์ก็อ่านคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ทำให้ 2 พี่น้องตระกูลเสนพงศ์สู้คดีต่อในชั้นฎีกา จนนำมาสู่การเคลื่อนไหวล่าสุด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ศาลตัดสินจำคุก ‘เทพไท เสนพงศ์’ คดีทุจริตเลือกตั้งนายกอบจ.
- ‘เทพไท’ ชงที่ประชุมพรรค แก้ ม.272 หั่นอำนาจ สว. โหวตเลือกนายกฯ
- ปชป.ร้าวหนัก ซัดกันนัว ปม ‘ปริญญ์ พานิชภักดิ์’