ถวิล ไพรสณฑ์ ประชาธิปัตย์ เลือดไหลหนัก “สุรเชษฐ์ มาศดิตถ์” จ่อลาออกตาม ถวิล ไพรสณฑ์ ย้อนแคมเปญ”เลือดใหม่ไหลเข้า เลือดเก่าไหลออก” ไม่ใช่ไหลกลับ ช้ำใจไม่เหลียวแลอดีตส.ส. ซ้ำยังเมินส่งคนใหม่ลงทับซ้อนพื้นที่ โดยไม่บอกกล่าวเจ้าของเดิม
หลังจากที่นายถวิล ไพรสณฑ์ ประธานคณะกรรมการกฎหมาย พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นลาออกจากการเป็นสมาชิก และได้ไปสมัครเป็นสมาชิกตลอดชีพ ของพรรคก้าวไกลนั้น
ล่าสุด วันนี้ (9 ก.พ.) นายสุรเชษฐ์ มาศดิตถ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่าในวันศุกร์นี้ (11 ก.พ.) จะเดินทางไปยื่นใบลาออก จากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ณ ที่ทำการพรรค
ถวิล ไพรสณฑ์ ไปแล้ว “สุรเชษฐ์” จ่อออกตาม
นายสุรเชษฐ์ เล่าถึงสาเหตุการตัดสินใจดังกล่าวว่า จากการที่ผู้บริหารพรรคเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.คนใหม่แทนตน ซึ่งเป็นอดีต ส.ส.พื้นที่เดิม ทั้งที่ตนเคยทำหนังสือ ถึงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิฏฐ์ หัวหน้าพรรค เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เพื่อยืนยันสิทธิ์ และแสดงความจำนงว่า เลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า ยังมีความต้องการ และมีความพร้อมที่จะลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคประชาธิปัตย์เช่นเดิม โดยได้เตรียมคณะทำงานและทีมงาน ตลอดจนลงพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ และยังมีประชาชนในเขตเลือกตั้ง ให้การต้อนรับอย่างดีตลอด
ระยะเวลาที่ว่างเว้นไม่ได้เป็น ส.ส.ก็ยังทำงานเกาะติดต่อเนื่องเพื่อประชาชน ในนามของพรรคประชาธิปัตย์ โดยได้ยื่นหนังสือดังกล่าวต่อผู้บริหารพรรคไปแล้ว แต่เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ก็ขอตั้งข้อสังเกตว่า ตามปกติการจะเปิดตัวผู้สมัครในเขตเลือกตั้งที่มีความพร้อม จะต้องมีการจัดทำโพลสอบถามสมาชิกในพื้นที่เขตเลือกตั้งนั้นก่อน อีกทั้งยังต้องผ่านคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครในนามพรรคเป็นผู้คัดเลือก แต่ผู้บริหารกลับมีการประกาศรายชื่อ โดยไม่ได้ถามความเห็นของตนแม้แต่คำเดียว
นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ก่อนการประกาศตัวว่าที่ผู้สมัครเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (5 ก.พ.) ช่วงเช้าวันนั้น ก็ได้โทรหา นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ประธานกรรรมการสรรหาผู้สมัครในนามพรรค แต่นายชำนิไม่รับสาย ทั้งยังไปนั่งร่วมพิธีในการเปิดตัวกับเลือดใหม่ โดยไม่เหลียวแลอดีต ส.ส.เก่าของพรรค ที่เป็นเจ้าของพื้นที่ อย่างนี้จะให้เข้าใจว่าอย่างไร
ที่เงียบไป 2-3 วัน เพราะได้ตัดสินใจแล้วว่า ต้องเลือกเดินให้ชัดเจน ซึ่งน่าแปลกว่า ทำไมผู้บริหารพรรคถึงประกาศตัวผู้สมัคร เพื่อจับจองพื้นที่ก่อน ทั้งที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังแบ่งเขตเลือกตั้งไม่เสร็จ
ทำเช่นนี้ ก็ชี้ให้เห็นเจตนาว่า มีการจัดคนไปลงในเขตเลือกตั้งไว้ล่วงหน้าแล้วหรือไม่ เช่น เขต 2 เดิมของ จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีพื้นที่ อำเภอพระพรหม ทั้งอำเภอ และ ตำบลท่าไร่ ตำบลบางจาก ของ อำเภอเมือง รวมกับพื้นที่ฝั่งซ้ายของ อำเภอปากพนัง เป็นพื้นที่เดิมของ นางสาวนริศรา อดิเทพวรพันธุ์ อดีต ส.ส.เดิม
มีผู้ประสงค์จะลงถึง 3 คน คือ นางสาวนริศรา นายพงษ์สินธุ์ เสนพงศ์ ผู้สมัครในการเลือกตั้งซ่อมครั้งล่าสุด และนายพิทักษ์เดช เดชเดโช (น้องชาย นายชัยชนะ เดชเดโช รองเลขาธิการพรรค) แต่ผู้บริหารพรรคกลับประกาศตัวให้นายพิทักษ์เดช ลงสมัคร โดยไม่มีการสอบถาม และดำเนินการตามขั้นตอนแต่อย่างใด
“อยากถามว่าแล้วคนที่เหลือพรรคหาที่ลงให้เขาหรือไม่อย่างไร หรือตั้งใจให้เขาย้ายไปอยู่พรรคอื่น แม้เขาจะแถลงว่า เป็นการคัดตัวเบื้องต้น แต่เมื่อประกาศตัวมาแล้วก็มีผลกระทบในการทำพื้นที่ เพราะบุคคลอื่นที่ทำพื้นที่ จะเดินหาประชาชนในพื้นที่เหมือนเดิมได้อย่างไร เพราะพรรคได้สร้างความชอบธรรมให้กับคนใหม่ ที่ประกาศชื่อไปแล้ว”
“จึงอยากถามว่าพรรคได้หาทางลงกับอดีต ส.ส.หลายสมัยอย่างผมอย่างไร แม้จะบอกกล่าวสักคำก็ไม่มี ผมไม่ขอวิงวอนใคร แต่ขอยึดความถูกต้อง เพราะเล่นการเมืองมาไม่เคยซื้อเสียง ไม่เคยอ้อนวอนใคร ตั้งแต่รุ่นพ่อ การกระทำอย่างนี้ก็เหมือนบีบให้ต้องทำอย่างหนึ่งอย่างใด”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โฆษกประชาธิปัตย์’ รับ ตกใจ-เสียใจ ‘ถวิลไพรสณฑ์’ ให้เหตุผลลาออก แต่บอกไม่ได้
- ไม่คิดว่าจะมีวันนี้!! ‘นิพิฏฐ์’ โพสต์อำลาประชาธิปัตย์ บอกพรุ่งนี้ยื่นใบลาออก
- ประชุมใหญ่ ‘ประชาธิปัตย์’ คึกคัก ‘จุรินทร์’ มั่นใจเรียกศรัทธาคืนจากประชาชน
