Politics

‘ชูวิทย์’ โพสต์ ‘เมื่อผลประโยชน์ไม่ลงตัว ต้องบรรลัยกันไปข้างหนึ่ง’

“ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” โพสต์ตีแผ่ข่าวจับผู้กำกับโจ้ มือคลุมถุง บนโรงพักนครสวรรค์ ระบุชัด เมื่อผลประโยชน์ไม่ลงตัว ต้องบรรลัยกันไปข้างหนึ่ง เป็นประสบการณ์ให้ตำรวจทุกคนเห็นว่า “อย่าทำอย่างโจ้” ไม่ใช่เรื่องเอาถุงคลุมหัวรีดผู้ต้องหา ต้อง “อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ เกลี่ยรายได้ให้ลงตัวให้ได้ “

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและนักธุรกิจกลางคืนชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “เมื่อผลประโยชน์ไม่ลงตัว ต้องบรรลัยกันไปข้างหนึ่ง” ข่าวจับผู้กำกับฯโจ้ มือคลุมถุง บนโรงพักนครสวรรค์ดังทั่วประเทศ  หมดสภาพตำรวจมือปราบ เคยจับโจรใส่กุญแจมือ ตอนนี้กลับกลายเป็นผู้ต้องหาคดีหนัก ถูกใส่กุญแจมือนำมาแถลงข่าวเสียเอง

ตอนแรกข่าวว่ารีดทรัพย์เอาเงินเพิ่มจาก 1 ล้าน เป็น 2 ล้าน ที่ผู้ต้องหาค้ายายอมรับจ่ายค่าตั๋ว “รอดคุก”

ชูวิทย์17 e1627833843358

ตอนนี้กลายเป็นรีดข้อมูลยาทำเพื่อประชาชนไปเสียแล้ว ส่วนเมียของผู้ต้องหาที่ปล่อยไป ไม่พูดถึงว่าปล่อยไปได้ไงเมื่อถูกจับพร้อมกัน

เรื่องนี้มีเงื่อนงำว่าอดีตผู้กำกับฯ มือปราบยาเสพติดจะทำดี แต่วิธีผิด หรือจะเอาเงินดำมาแบ่งใช้?

นานๆ ไปหากคดียังอยู่โรงพักนครสวรรค์ ตอนจบอาจพลิกจากหนักเป็นเบา เสี่ยโจ้เขาแบ็คเบาที่ไหน ที่แน่ๆ เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น และสังคมจะไม่ได้รู้ความจริง หากผู้กำกับฯโจ้ ในฐานะผู้นำหน่วยโรงพักพื้นที่ทองคำอย่างเมืองนครสวรรค์ดูแลจัดสรรผลประโยชน์ภายในโรงพักลงตัว

คลิปนี้จะไม่ทีทางหลุดออกมาสู่สาธารณะโดยเด็ดขาด หากทุกคนในโรงพักแฮปปี้ จะไปหาเรื่องทุบหม้อข้าวตัวเองทำไม?

เพราะขนาดตัวอดีตผู้กำกับฯโจ้ ที่แปรสภาพมาเป็นผู้ต้องหา ถึงกับเอ่ยวลีว่า “อโหสิกรรม” คนปล่อยคลิปนี้

จากประสบการณ์ผม อย่างนี้แสดงว่าทนไม่ไหวแล้ว การจัดสรรผลประโยชน์ภายในโรงพัก หรือหน่วยงานเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้นำหน่วย ที่จะต้องแบ่งสรรปัน ส่วนให้ได้ลงตัวไม่ขาดตกบกพร่อง หรืออย่างน้อย “ที่เคยได้ไม่ลดลง”

240626731 103293892085206 2442991284921830324 n e1629983236666

จะอ้างว่าตัวเองใหญ่ ผู้ใหญ่ส่งมาแล้วเปลี่ยนระบบใหม่ เคลียร์ตั๋วใหม่ให้เอามาไว้ที่ตัวเองคนเดียว แล้วจัดสรรลดลงได้ไง

รายได้ที่เคยได้ ไม่ได้แล้ว หดหายไปเข้ากระเป๋าผู้กำกับฯ คนเดียว

ยิ่งช่วงนี้บ่อนก็ปิด โควิดก็มา ผับบาร์ไม่เปิด จะเอาที่ไหนยาไส้ ยังมาลดตั๋วลงอีก

แบบนี้ไม่รู้เสียแล้ว อย่าพลาดแล้วกัน และอดีตผู้กำกับฯโจ้ ตำรวจหนุ่มอนาคตไกลก็พลาดหนักจนได้

มันไม่ใช่เรื่องของการทนเห็นไม่ได้ของตำรวจชั้นผู้น้อย หรือกลัวถูกฆ่าหรอกครับ
ไม่ได้เกี่ยวกับ “คุณธรรม” มันเป็นเรื่องของ “คุณเงิน” มากกว่า เมื่อผลประโยชน์ไม่ลงตัวก็ต้องบรรลัยกันไปข้างหนึ่ง เรื่องนี้สะท้อนถึงระบบผลประโยชน์ที่ขัดแย้ง ภาพลักษณ์องค์กรตำรวจ จึงถูกประจานออกมาให้เห็นตะลึงกันทั้งประเทศ ผู้ใหญ่ในวงการตำรวจย่อมรู้ดี เรียกว่า หากงานนี้เกลี่ยลงตัวทุกคน ผู้กำกับฯโจ้ ยังสามารถเจริญรอยตามรุ่นพี่ได้สบายๆ รุ่งเรืองเป็นเบอร์หนึ่งของรุ่นต่อไป

จึงเป็นประสบการณ์ให้ตำรวจทุกคนเห็นว่า “อย่าทำอย่างโจ้” ไม่ใช่เรื่องเอาถุงคลุมหัวรีดผู้ต้องหา แต่ต้อง “อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ เกลี่ยรายได้ให้ลงตัวให้ได้ “

หากอยู่โรงพักเกรดทองไม่เป็น ผลลัพธ์จะเป็นแบบโจ้ ที่เล่นกันถึงขนาดเข้าคุกตลอดชีวิต

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight