General

‘ผู้กำกับโจ้’ เล่านาทีเกิดเหตุ เค้นข้อมูลยาเสพติด แต่พลาด ขอรับผิดชอบคนเดียว

“ผู้กำกับโจ้” เล่านาทีเกิดเหตุ อ้างเค้นข้อมูลยาเสพติด สาบานไม่มีเจตนาฆ่า แต่พลาดจนตัวเองยังรู้สึกช็อค เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ขอรับผิดชอบคนเดียว ส่วนลูกน้องได้ไม่เกี่ยว ยืนยันไม่มีการตบทรัพย์ หรือรีดเงิน 2 ล้าน

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก.พร้อมคณะ แถลงถึงการจับกุม “ผู้กำกับโจ้” พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครสวรรค์ ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง

ผู้กำกับโจ้

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า คดีนี้เป็นที่ทราบกันดีตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า มีผู้ต้องหาคดียาเสพติดเสียชีวิต ระหว่างการถูกควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีข่าวในโลกโซเชียลว่า ถูกทำร้าย ซึ่งสื่อมวลชนทราบดีว่า เรื่องเป็นมาอย่างไร

ทางฝ่ายสืบสวน โดยมี พล.ต.อ.สุชาติ ได้ขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาไปทั้งหมด 7 ราย ขณะนี้มีการดำเนินการอยู่ที่ จังหวัดนครสวรรค์ แล้ว 5 ราย ส่วนที่อยู่ที่นี่คือ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ และอีกรายคือ ร.ต.ท.รณินทร์ มาศวรรณ กำลังเดินทางมาจาก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวต่อว่า การทำงาน ไม่เคยปกป้องคนกระทำผิด เอาผิดทุกคน เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แม้ว่าอาจไม่ได้ช่วยให้สิ่งที่สูญเสียไปดีขึ้น แต่อย่างน้อย ก็ให้เห็นว่า ไม่เคยปกป้อง เพื่อให้สังคมตำรวจ องค์กรตำรวจ อยู่ได้ ด้วยความเชื่อมั่นของประชาชน

ผู้กำกับโจ้

ที่ผ่านมา ตนในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอโทษพี่น้องประชาชนที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่จะเห็นว่า ไม่เคยมีใครที่ทำผิด แล้วจะลอยนวลไปได้

“ส่วนใหญ่แล้วเราดำเนินการทั้งหมด ยืนยันว่าแม้จะเป็นยศชั้นไหน ตั้งแต่ ผบ.ตร.ไปถึงลูกแถว ถ้าทำอะไรไม่ดี ทำผิด ก็ต้องถูกลงโทษ วันนี้ในรายละเอียด ก็อยากให้ฟังจากปากของผู้กระทำเอง แต่เราไม่มีนโยบายจะนำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าว ก็จะให้โฟนอินเข้ามา ให้สื่อมวลชนได้สอบถาม เชื่อว่าพี่น้องสื่อมวลชนจะได้สอบถามในประเด็นต่างๆ โดยให้เจ้าหน้าที่ต่อโทรศัพท์มือถือ” ผบ.ตร.กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ตอบคำถามสื่อมวลชนผ่านวิธีการโฟนอิน ว่า คดีนี้ตนจะขอให้การในชั้นศาล โดยเหตุที่เกิดขึ้น เนื่องจากลูกน้องตน จับผู้ต้องหาคดียาเสพติดมาได้ แล้วเจอโทรศัพท์ที่ถ่ายรูปมีไอซ์ 1 กิโลกรัม แล้วก็ยาบ้า ประมาณเกือบ ๆ 2 หมื่นเม็ด

ผู้กำกับโจ้

ปกติตนไม่เคยลงไปดูเอง แต่ว่าเพราะเป็นเคสใหญ่ จึงลงไปดู แล้วก็พยายามสอบถามผู้ต้องหา แต่ก็ไม่ยอมบอกความจริง ตนจึงลงมือไป ซึ่งยอมรับว่า สิ่งที่ทำไปนั้นไม่ถูกต้อง แต่ที่ทำไปเพราะต้องการเอาข้อมูล แล้วก็จัดการกับปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์

“ในส่วนของลูกน้องทุกคนนั้น ผมขอยอมรับผิดว่า เป็นผู้ที่สั่งให้ลูกน้องทำเอง พวกเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และได้ห้ามผมแล้ว ซึ่งผมขอรับผิดแต่ผู้เดียว เพราะเป็นนาย เป็นผู้สั่งลูกน้อง ลูกน้องก็ทำ แต่เป็นการทำไปเพราะต้องการทำงา นเรื่องเงินไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง”

ส่วนที่ใช้ถุงคลุมศีรษะผู้ต้องหา ก็ไม่ได้มีเรื่องการรีดเอาเงิน แต่เจตนาครั้งแรก คือไม่ต้องการให้ผู้ต้องหาเห็นหน้า แต่ทางผู้ต้องหาก็พยายามเอามือดึงถุงออก จึงต้องใส่กุญแจมือไขว้หลัง ไม่เช่นนั้นก็จะฉีกถุงอีก

พ.ต.อ.ธิติสรรค์ บอกว่า ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ส่วนเรื่องเงินนี่ไม่มีเลย สาบานต่อพระที่ห้อยคอได้ ชีวิตตั้งแต่รับราชการมา ไม่เคยมีการทุจริตเรื่องเงิน

สำหรับสาเหตุที่ไม่ได้แจ้งต่อผู้บังคับบัญชาภายหลังเกิดเหตุผู้ต้องหาเสียชีวิตนั้น เป็นเพราะรู้สึกตกใจ ช็อกกับเหตุที่เกิดขึ้น ทำอะไรไม่ถูก จริง ๆ ต้องบอกว่า จับชีพจรเขาก็ยังหายใจอยู่ แต่ก็หายใจรวยรินแล้ว จึงไม่แน่ใจ ก็เลยให้ลูกน้องมาช่วยปั๊มหัวใจ ทำซีพีอาร์ แล้วให้รีบพาตัวไปส่งโรงพยาบาล

ผู้กำกับโจ้

อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ กล่าวว่า เรื่องการเสพยาเสพติดเกินขนาดนั้น ได้พูดคุยสอบถามจากภรรยาผู้ต้องหา ทราบว่า แต่ละวันได้เสพยาเข้าไปเยอะ แล้วก็พักผ่อนน้อย คาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากการเสพยา

ตนยอมรับในสิ่งที่ได้กระทำลงไป และยอมรับในสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา ไม่ว่าศาลจะตัดสินอย่างไร จะถูกจำคุกตลอดชีวิต ตนขอยอมรับผิดทุกประการ แต่ยืนยันว่าตนไม่มีเจตนาลงมือฆ่า แต่มีเจตนาจะทำงาน เพื่อประชาชน ให้ลูกหลานไม่ต้องติดยาเสพติด

“สิ่งที่ผมอยากจะบอก คือผมต้องขอโทษพี่น้องประชาชนทุกคน อยากจะบอกว่าผมตั้งใจทำงาน แต่มันพลาดไป ผมยอมรับในสิ่งที่ทำผิดพลาด ส่วนประการที่สอง ผมต้องกราบขอโทษคุณพ่อ คุณแม่ แล้วก็ไม่ได้ตั้งใจว่า การเอาถุงคลุมหัวจะทำให้ตาย แค่ต้องการข้อมูลยาเสพติด และประการที่ 3 ผมขอโทษ ผบ.ตร. และตำรวจทุกคน ที่ทำให้องค์กร และตำรวจที่ดีต้องเสียหาย ผมผิดเอง ต้องขอโทษทุกคน” พ.ต.อ.ธิติสรรค์ กล่าวและว่า หลังจากผู้ต้องหาเสียชีวิต ตนก็ตกใจ จึงคิดว่าต้องปรึกษากันก่อนว่าจะทำอย่างไรต่อไป

ผู้กำกับโจ้

พ.ต.อ.ธิติสรรค์ กล่าวด้วยว่า ไม่ได้ข่มขู่หรือติดสินบนบิดาผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุที่มีการถอดออกไป ตรงนี้เป็นเพราะตนรู้สึกตกใจเวลานั้น ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร

จากนั้น พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร. หัวหน้าชุดจับกุมกล่าวตัดบทว่า แค่นี้ก็เพียงพอแล้วไม่ต้องถามแล้ว จะเสียหายต่อนรูปคดี ทุกอย่างให้ไปในสำนวน ถ้าถามอย่างนี้ก็สั่งฟ้องได้เลย

ส่วนผลการชันสูตรศพผู้ต้องหา ได้รับคำร้องของพนักงานสอบสวน นำผลการตรวจปัสสาวะเป็นทางการออกมาให้พนักงานสอบสวน นำไปที่สภ.เมืองนครสวรค์

ภาพ : เฟซบุ๊กเพจ Police TV by UCI Media

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo