COVID-19

ผู้ต้องขังติดโควิด เสียชีวิต 4 ราย ติดเชื้อเพิ่มอีก 280 ราย หายป่วยมากขึ้น

ผู้ต้องขังติดโควิด วันที่ 8 มิถุนายน 2564 เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 280 ราย ลดลงจากเมื่อวาน คาดแนวโน้มหายป่วยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กว่า 80% ของผู้ป่วยสะสมกว่า 3 หมื่นราย

นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ในเรือนจำ และทัณฑสถาน ข้อมูล ณ วันที่ 8 มิถุนายน 2564 เวลา 16.00 น. พบ ผู้ต้องขังติดโควิด รายใหม่จำนวน 280 ราย รักษาหายเพิ่ม 1,572 ราย เสียชีวิต 4 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อ ที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 12,031 ราย

ผู้ต้องขังติดโควิด

สำหรับภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ในเรือนจำ และทัณฑสถาน พบว่า มีเรือนจำ ทัณฑสถาน ที่ไม่พบการแพร่ระบาด เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 127 แห่ง ขณะที่พบการแพร่ระบาดจำนวน 12 แห่งเท่าเดิม โดยเริ่มพบแนวโน้มของผู้ต้องขัง ที่หายป่วย เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ มียอดผู้หายป่วย 17,833 ราย หรือกว่า 80% ของยอดผู้ป่วยสะสม 30,037 ราย

ปัจจุบัน กรมราชทัณฑ์ มีโรงพยาบาล จำนวน 2 แห่ง คือ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลเรือนจำกลางบางขวาง ทำหน้าที่ในการดูแลรักษา ผู้ป่วยกลุ่มสีแดงและสีเหลือง จากเรือนจำทัณฑสถาน ในพื้นที่ ที่มีการแพร่ระบาด ภายใต้การดูแลรักษา ตามมาตรฐานทางการแพทย์ โดยหากเป็นผู้ป่วยที่มีอาการหนัก จะดำเนินการส่งต่อ เข้ารับการรักษาโรงพยาบาลภายนอก เพื่อให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสม จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

นอกจากการศึกษาตามกระบวนการแล้ว ยังคุมเข้มในส่วนของมาตรการคัดกรองผู้ติดเชื้อ ด้วยการ swap ก่อนเข้าเรือนจำ โดยเฉพาะผู้ต้องขังเข้าใหม่ ในเรือนจำ ทัณฑสถาน ที่ไม่พบการแพร่ระบาด ซึ่งต้องแยกผู้ต้องขัง ที่ตรวจพบเชื้อ ไปรักษายังโรงพยาบาลภายนอก ไม่นำเข้าเรือนจำ ทัณฑสถาน และถ้าไม่พบเชื้อ จะนำตัวเข้าสู่ห้องกักโรค เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 21 วันโดยต้องทำการ swap เพื่อยืนยันว่า ไม่พบเชื้ออีกครั้ง จึงจะปล่อยตัวเข้าสู่เรือนจำชั้นใน

ในส่วนของเรือนจำ ทัณฑสถาน ที่พบการแพร่ระบาดแล้ว จะต้องดำเนินการแยกส่วน ผู้คุม ผู้ต้องขังเข้าใหม่ ออกจากเรือนจำ ทัณฑสถาน เดิมอย่างชัดเจน โดยอาจพิจารณาพื้นที่เรือนจำเก่า เรือนจำชั่วคราว หรือเรือนจำทัณฑสถานใกล้เคียง เพื่อรับตัว

ราชทัณฑ์ 3

ด้านการดำเนินการฉีดวัคซีน นายอายุตม์ เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการฉีดวัคซีน แก่ผู้ต้องขังไปแล้ว 20,336 ราย ในเรือนจำ ทัณฑสถาน จำนวน 11 แห่ง คือ เรือนจำกลางสมุทรปราการ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษปทุมธานี เรือนจำกลางระยอง เรือนจำกลางนครปฐม เรือนจำพิเศษพัทยา ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ทัณฑสถานหญิงกลาง เรือนจำอำเภอไชยา เรือนจำอำเภอธัญบุรี เรือนจำพิเศษมีนบุรี และเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ซึ่งการดำเนินงานที่ผ่านมา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

พร้อมกันนี้ ยังมีเรือนจำ ทัณฑสถาน ที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการ 12 แห่ง คือ

เรือนจำจังหวัดปทุมธานี

สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี

เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช

เรือนจำกลางชลบุรี

เรือนจำกลางราชบุรี

เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี

เรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

เรือนจำกลางพระนครศรีอยุธยา

ทัณฑสถานบำบัดพิเศษพระนครศรีอยุธยา

ทัณฑสถานวัยหนุ่มพระนครศรีอยุธยา

เรือนจำกลางเขาบิน

เรือนจำจังหวัดระนอง

สำหรับการดำเนินการที่ผ่านมา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยผู้ต้องขังที่มีอาการไม่พึงประสงค์ จากการรับวัคซีน ที่เรือนจำกลางสมุทรปราการ ได้รับการรักษา จนอาการเป็นปกติแล้ว

กรณีผู้ต้องขังที่เสียชีวิต 4 รายในวันนี้ นายอายุตม์ กล่าวว่า ผู้ต้องขัง 2 รายแรก เป็นผู้ป่วยจากทัณฑสถานหญิงกลาง และทัณฑสถานหญิงชลบุรี เข้ารับการรักษาที่ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ส่วนอีก 2 ราย เป็นผู้ต้องขังที่รับเข้ารับการรักษา ที่โรงพยาบาลเรือนจำกลางบางขวาง​

ผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรคสูง คือ มีโรคประจำตัว และบางรายเป็นผู้สูงอายุ ซึ่งแพทย์ได้ให้การรักษา ด้วยการให้ยา และการรักษาอย่างเต็มประสิทธิภาพ ต่อาการทรุดลง จนกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด โดยเป็นการเสียชีวิตที่ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ 1 ราย โรงพยาบาลเรือนจำกลางบางขวาง 1 ราย โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ 1 ราย และโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า 1 ราย

กรมราชทัณฑ์ ได้ประสานไปยังญาติ และดำเนินการ ตามกระบวนการส่งศพของผู้เสียชีวิต เพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอย่างปลอดภัย ตามวิธีจัดการศพ ของผู้เสียชีวิตจากโรค โควิด-19

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo