โควิดเรือนจำ! “กรมราชทัณฑ์” รายงานยอดผู้ติดเชื้อใหม่วันนี้เพิ่มขึ้น 91 ราย เสียชีวิต 4 ราย อยู่ระหว่างการรักษาอีก 13,008 ราย ไม่พบการแพร่ระบาดคงที่จำนวน 126 แห่ง
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดี กรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิดเรือนจำ และทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 6 มิ.ย.เวลา 16.00 น.) มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 91 ราย รักษาหายเพิ่ม 842 ราย เสียชีวิต 4 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 13,008 ราย ภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดในเรือนจำและทัณฑสถาน พบว่ามีเรือนจำ/ทัณฑสถานที่ไม่พบการแพร่ระบาดคงที่ จำนวน 126 แห่ง พบการแพร่ระบาดจำนวน 12 แห่งเท่าเดิม
ขณะนี้ ยังคงเข้มมาตรการป้องกันเชื้อ คือ อย่าให้มีการนำเชื้อเข้า เร่งดำเนินการรักษาเพื่อลดอัตราการเสียชีวิต และระวังอย่าให้นำเชื้อจากเรือนจำที่พบการแพร่ระบาดออกภายนอก โดยเฉพาะการเร่งค้นหาและคัดแยกผู้ป่วยในเรือนจำ/ทัณฑสถานที่พบการแพร่ระบาด ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ผู้ต้องขังได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วแล้ว ยังสามารถคัดกรองผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อ ให้ได้รับการจัดสรรวัคซีน ซึ่งจะช่วยลดการแพร่ระบาดภายในเรือนจำ/ทัณฑสถานได้อีกทาง
ส่วนด้านการดำเนินการฉีดวัคซีน นายอายุตม์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนในเรือนจำ/ทัณฑสถานไปแล้ว จำนวน 9 แห่ง คือ เรือนจำกลางสมุทรปราการ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษปทุมธานี เรือนจำกลางระยอง เรือนจำกลางนครปฐม เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี เรือนจำพิเศษพัทยา ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เรือนจำจังหวัดภูเก็ต และเรือนจำพิเศษมีนบุรี ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
สำหรับการดำเนินการต่อจากนี้ในระยะแรกจะเริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนในผู้ต้องขัง 3 กลุ่ม ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากที่สุด คือ
1. กลุ่มเรือนจำสีขาวที่ไม่พบการระบาดในพื้นที่สีแดงเข้ม ได้แก่ เรือนจำจังหวัดปทุมธานี เรือนจำอำเภอธัญบุรี สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี เรือนจำกลางเพชรบุรี จะได้รับการจัดสรรวัคซีนครบตามจำนวนผู้ต้องขังทุกคน
2. เรือนจำสีขาวที่ไม่พบการระบาดในพื้นที่สีแดง จะดำเนินการฉีดให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้ต้องขังกลุ่มเปราะบาง (ผู้ต้องขังสูงอายุ และผู้ต้องขังที่มีโรคประจำตัว) จำนวน 19 แห่ง คือ
- เรือนจำจังหวัดตรัง
- ทัณฑสถานบำบัดพิเศษสงขลา
- เรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- เรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี
- ทัณฑสถานวัยหนุ่มนครศรีธรรมราช
- เรือนจำอำเภอนาทวี
- เรือนจำกลางยะลา
- เรือนจำอำเภอทุ่งสง
- เรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร
- เรือนจำกลางเขาบิน
- เรือนจำจังหวัดระนอง
- ทัณฑสถานบำบัดพิเศษพระนครศรีอยุธยา
- เรือนจำกลางตาก
- เรือนจำกลางพระนครศรีอยุธยา
- ทัณฑสถานหญิงชลบุรี
- ทัณฑสถานวัยหนุ่มพระนครศรีอยุธยา
- ทัณฑสถานหญิงสงขลา
- เรือนจำอำเภอไชยา
- เรือนจำอำเภอปากพนัง
3. กลุ่มที่ 3.เรือนจำที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว และมีผู้ต้องขังที่ไม่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากการยืนยันทางการแพทย์ จะได้รับการจัดสรรวัคซีนเพื่อฉีดให้กับผู้ต้องขังกลุ่มดังกล่าว ซึ่งวันนี้จะเริ่มจัดสรรวัคซีน ให้แก่ทัณฑสถานหญิงกลาง และจะพิจารณาจัดสรรเพิ่มเติมที่ทัณฑสถานหญิงธนบุรี รวมถึงเรือนจำกลางเชียงใหม่ ที่อยู่ระหว่างการยืนยันผู้ต้องขังที่ไม่ติดเชื้ออีกครั้ง
นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีของผู้ต้องขังที่เสียชีวิต 4 รายในวันนี้ เป็นผู้ต้องขังที่เสียชีวิตที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ 3 ราย และที่โรงพยาบาลเรือนจำกลางบางขวาง 1 ราย โดยทั้ง 4 ราย เป็นผู้ต้องขังในกลุ่มเปราะบาง คือ มีโรคประจำตัว เป็นโรคเบาหวาน และบางรายเป็นผู้ป่วยสูงอายุ ที่มีภาวะความเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรคที่สูง ซึ่งแพทย์ได้ให้ยาและรักษาตามกระบวนการอย่างเต็มประสิทธิภาพแล้ว แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตของผู้ป่วยทั้ง 4 รายไว้ได้ จนกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ดีขึ้น! ตรวจซ้ำ ‘โควิดเรือนจำ’ เจอรายใหม่ 604 คน ไม่พบระบาดเพิ่ม
- โควิดเรือนจำ แนวโน้มดีขึ้นติดเชื้อใหม่ 315 ราย 125 แห่งไม่พบการระบาด!
- โควิดเรือนจำยังหนัก! ติดเชื้อวันนี้ 1,117 ราย สะสมทะลุ 2.2 หมื่นราย