COVID-19

โควิดเรือนจำ พุ่งพรวด 534 ราย ดับเพิ่ม 3 ราย ฉีดวัคซีนแล้ว 9 แห่ง

โควิดเรือนจำ ผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ พุ่งพรวด 534 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย คาดแนวโน้มดีขึ้น เดินหน้าฉีดวัคซีนโควิด ควบคุมการแพร่ระบาด เผยฉีดครบ 100% แล้ว 9 แห่ง

นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดี กรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึง สถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคโควิด-19 ในเรือนจำ และทัณฑสถาน ข้อมูล ณ วันที่ 7 มิถุนายน 2564 เวลา 16.00 น. ว่า โควิดเรือนจำ มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 534 ราย รักษาหายเพิ่ม 158 ราย มีผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อ ที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 13,392 ราย

โควิดเรือนจำ

สำหรับภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาด ในเรือนจำ และทัณฑสถาน พบว่า มีเรือนจำ ทัณฑสถาน ที่ไม่พบการระบาดคงที่ จำนวน 126 แห่ง พบการระบาดจำนวน 12 แห่งคงเดิม ซึ่งคาดว่าในเร็ว ๆ นี้ จะมีจำนวนเรือนจำ ทัณฑสถาน ที่ไม่พบการแพร่ระบาดเพิ่ม รวมถึงการเปลี่ยนสถานะ จากเรือนจำ ทัณฑสถาน ที่พบการแพร่ระบาด ให้เป็นเรือนจำสีขาว ที่ไม่พบการแพร่ระบาด ได้เพิ่มขึ้น

ขณะที่ การดำเนินงานทุกอย่าง ต้องเป็นไปตามแนวทาง ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะดำเนินการควบคู่ไปกับ แผนการป้องกันเชื้อ รวมถึงการรักษาผู้ติดเชื้อ ให้ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และมีประสิทธิภาพ ตามมาตรฐานทางการแพทย์

ด้านการดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 กรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แก่ผู้ต้องขังไปแล้ว 17,054 รายในเรือนจำทัณฑสถาน จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ เรือนจำกลางสมุทรปราการ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษปทุมธานี เรือนจำกลางระยอง เรือนจำกลางนครปฐม เรือนจำกลางพิเศษพัทยา ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ทัณฑสถานหญิงกลาง เรือนจำพิเศษมีนบุรี และเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ซึ่งการดำเนินการ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ราชทัณฑ์ 1

นอกจากนี้ ยังมีเรือนจำ ทัณฑสถาน ที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการ 7 แห่ง คือ เรือนจำอำเภอธัญบุรี สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เรือนจำกลางชลบุรี เรือนจำกลางราชบุรี เรือนจํากลางสุราษฎร์ธานี และเรือนจำอำเภอไชยา

ทั้งนี้ มีเรือนจำทัณฑสถาน อีกจำนวน 26 แห่ง ทั้งเรือนจำสีขาวในพื้นที่สีแดงเข้ม ได้แก่ เรือนจำจังหวัดปทุมธานี เรือนจำอำเภอธัญบุรี สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี เรือนจำกลางเพชรบุรี และเรือนจำสีขาว ในพื้นที่สีแดง ที่จะดำเนินการฉีด ให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้ต้องขังกลุ่มเปราะบาง และผู้ต้องขัง ที่ไม่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากการยืนยันทางการแพทย์ ซึ่งจะได้รับการจัดสรรวัคซีน เพื่อฉีดให้กับผู้ต้องขังกลุ่มดังกล่าว เช่นเดียวกัน

จากนั้น เมื่อได้รับการจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติม จะดำเนินการกระจายวัคซีน ไปยังกลุ่มที่ยังไม่ได้รับการฉีด จนกระทั่งครอบคลุมทุกราย ซึ่งรวมถึงการดำเนินการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในเรือนจำ ทัณฑสถาน ที่มีการฉีดเข็มแรกไปแล้ว เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน และให้วัคซีนสามารถทำงาน ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น

ส่วนกรณีผู้ต้องขังที่เสียชีวิต 3 รายในวันนี้ ได้ถูกส่งต่อเข้ารับการรักษาที่ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ โดยเป็นผู้ต้องขัง จากทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง เรือนจำพิเศษธนบุรี และเรือนจำกลางคลองเปรม ซึ่งทั้ง 3 ราย เป็นผู้ต้องขัง ในกลุ่มเปราะบาง กล่าวคือ มีโรคประจำตัว เป็นโรคเบาหวาน ความดัน มีภาวะไตวาย และบางราย เป็นผู้ป่วยสูงอายุ ที่มีภาวะความเสี่ยง ต่อการรุนแรงของโรคที่สูง

ขณะเดียวกัน ในจำนวนนี้ มี 2 รายได้ถูกส่งต่อ ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ และโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งแพทย์ได้ให้ยา และรักษาตามกระบวนการ อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่อาการยังคงทรุดลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด

กรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการตามกระบวนการ ส่งศพของผู้เสียชีวิตให้แก่ญาติ เพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา อย่างปลอดภัย ตามวิธีการจัดการศพผู้เสียชีวิต จากโรคโควิด-19 ของ สถาบันพยาธิวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo