ผบ.ตร. งัดแผนรับมือ “ม็อบ” กดดันวุฒิสภาวันโหวตนายกฯ เชื่อรับมือได้
พ.อ.จิตนาถ ปุณโณทก รองโฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมกระทรวงกลาโหม ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพดําเนินการในการปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงกลาโหม ตามแผนการปฏิรูปการบริหารจัดการและการปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงกลาโหมระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566 – 2570) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทํางาน และนําไปสู่การมีโครงสร้างอัตราการจัดหน่วยที่มีขนาด กะทัดรัดอย่างสมดุล มีจํานวนกําลังพลที่เหมาะสม
รวมทั้งมียุทโธปกรณ์เทคโนโลยีที่เพียงพอและทันสมัย สามารถปฏิบัติภารกิจได้หลากหลาย รองรับภัยคุกคามได้ทุกรูปแบบ และสอดคล้องกับสภาวะแวดล้อมด้านความมั่นคงที่เปลี่ยนแปลงไป ในปัจจุบัน ตลอดจนพิจารณาปรับลด ยุบเลิกหน่วยที่มีความซ้ำซ้อนหรือหมดความจําเป็นทั้งนี้การ ดําเนินการดังกล่าวให้ยึดถือและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ประกอบการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขอัตราของหน่วยขึ้นตรง กระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ ที่กําหนดอย่างเคร่งครัด
นอกจากนั้น ยังให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ ดํารงความต่อเนื่องในการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านความมั่นคงกับมิตรประเทศ ตามแผนการเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงกับมิตร ประเทศของกระทรวงกลาโหม (พ.ศ. 2566- 2570) และสอดคล้องกับการดําเนินนโยบายของรัฐบาล ด้วยการสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีในทุกระดับและทุกด้านกับนานาประเทศ ผ่านกิจกรรมความร่วมมือต่างๆ อาทิ การฝึกร่วมผสม การเดินทางเยือนของผู้บังคับบัญชาระดับสูง การแลกเปลี่ยนที่นั่งการศึกษา และการเข้าร่วมการประชุมหารือ ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี รวมทั้งการจัดทํา MOU ในด้านต่าง ๆ อันเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์และความ ไว้เนื้อเชื่อใจ
ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถของกองทัพ ในการสร้างความสงบสุข และความมั่นคงภายในภูมิภาคได้อย่างยั่งยืน ให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ เน้นย้ำและกําชับหน่วยฝึกทหารใหม่ ให้ปฏิบัติตามระเบียบและหลักสูตรการฝึกทหารใหม่อย่างเคร่งครัด กรณีมีการลงทัณฑ์ทหารที่กระทําผิดวินัย จะต้องเป็นไปตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยทหาร พุทธศักราช 2476 ระเบียบข้อบังคับของทางราชการ และแบบธรรมเนียมทหาร เท่านั้น
มีรายงานว่า ในที่ประชุมสภากลาโหม พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ได้รายงานแผนรักษาความสงบเรียบร้อยอาคารรัฐสภา และพื้นที่โดยรอบช่วงการประชุมรัฐสภา เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี โดยคาดว่าน่าจะมีกลุ่มมวลชนมาชุมนุมเพื่อกดดันให้วุฒิสมาชิกเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ตัวเองสนับสนุน โดยจะมีการจัดพื้นที่ไว้รองรับ ซึ่งเป็นแผนเดิมที่มีอยู่แล้ว แต่จะมีการปรับเปลี่ยนไปตามข้อมูลการข่าวสารในขณะนั้นด้วย เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถรับมือได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- หุ้นวันนี้ปิดร่วง 12.81 จุด รับแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ คาดพรุ่งนี้ยังแกว่งไซด์เวย์
- ‘อนุทิน’ ขอรัฐบาลใหม่ คิดรอบด้าน ก่อนดัน ‘กัญชา’ กลับไปเป็นยาเสพติด
- ‘อดิศร’ ลั่น! อย่าให้เก้าอี้ ‘ประธานสภา’ มาขวางความเจริญของรัฐบาลผสม!