Politics

‘อดิศร’ ลั่น! อย่าให้เก้าอี้ ‘ประธานสภา’ มาขวางความเจริญของรัฐบาลผสม!

“อดิศร” ลั่น “เพื่อไทย” เกือบ 100% ไม่ยอมยกเก้าอี้ “ประธานสภา” ให้ก้าวไกล ลั่น! อย่าให้เรื่องนี้มาขวางความเจริญของรัฐบาลผสม!

นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เดินทางเข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยระบุว่า ผมเพิ่งได้กลับเข้าสภาฯ อีกครั้งหนึ่งในรอบเกือบ 2 ทศวรรษ รู้สึกตื่นเต้นกับอาคารสถานที่ที่มีชื่อแปลกประหลาด ผมอยากเปลี่ยนชื่อ “สัปปายะสภา” ที่แปลยากให้เป็นสภาของประชาชน เพราะเราเป็นศาสนาพุทธ ไม่ใช่ศาสนาพราหมณ์ ชื่อห้องประชุมสุริยันต์ จันทรา เป็นเรื่องเกี่ยวกับรามเกียรติ์ซึ่งไม่เกี่ยวกับประชาธิปไตย เรื่องนี้ผมเอาจริง!

ประธานสภา

ส่วนกรณีที่ ส.ส. พรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่จะยกตำแหน่งประธานสภาให้กับพรรคก้าวไกลว่า การประชุมพรรคเมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา เป็นการประชุมภายในของพรรค และ 22 ปีที่ผ่านมาเรามีการประชุมกันทุกครั้ง มีประเด็นแลกเปลี่ยนในลักษณะเช่นนี้ตลอดมา เมื่อมีปัญหาอะไรก็มาถกเถียงกันในที่ประชุม เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคประชาธิปไตย

“ตอนแรกบอกว่ารัฐมนตรี 14 +1 ก้าวไกลได้นายกรัฐมนตรี เพื่อไทย 14+1 ได้ประธานสภา ถ้าเป็นไปตามนี้พวกเราก็มีความสุข แต่อยู่ ๆ ก็ไปยกตำแหน่งประธานสภาให้กับพรรคอันดับ 1 โดยไม่สอบถาม ส.ส หรือที่ประชุมพรรค จึงมีปัญหาทำให้ถกเถียงกันอาจจะรุนแรงไปหน่อย แต่ความรุนแรงเป็นภาษาของประชาธิปไตย ภาษาดอกไม้ของเพื่อไทย ดังนั้นหากพาดพิงไปถึงพรรคอื่นก็กราบขอโทษด้วย” นายอดิศร กล่าว

ประธานสภา

เมื่อถามว่าแนวโน้มการแสดงความคิดเห็นแบบนี้จะลงเอยอย่างไร นายอดิศร กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งคนที่มีหน้าที่ ไปเจรจากับพรรคก้าวไกลและพรรคร่วม ก็ต้องคำนึงถึงความรู้สึก ส.ส. เกือบจะ 100% ของพรรคเพื่อไทยว่า มีความคิดเห็นลักษณะเช่นนี้ แล้วไปพูดกับพรรคก้าวไกลว่า เขาจะมีท่าทีอย่างไร

“ผมไม่อยากให้ประธานสภามาขัดขวางการเจริญเติบโตของรัฐบาลผสมที่ใกล้เข้ามาแล้ว ขอภาวนาให้เจรจาจบลงเร็ว ๆ และในพรรคมีความเห็นแบบนี้เกือบจะ 100% เพราะคะแนนเราอาจจะห่างกันไม่มาก” นายอดิศร กล่าว

เมื่อถามว่า ถ้าตกลงกันไม่ได้จะมีการโหวตแข่งกันหรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่า ถ้ามีปัญหาถกเถียงกันก็ต้องใช้ที่ประชุมตัดสิน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของสภา เพราะที่นี่ไม่ใช่สภาของพรรคใดพรรคหนึ่ง เนื่องจากไม่มีพรรคใดได้เสียงเกินครึ่งสักพรรคเดียว อย่างไรก็ตาม อยากให้เจรจากันให้จบโดยเร็ว ถ้าตกลงกันอย่างไร ก็ให้มีการเสนอในที่ประชุมพรรคฯและตนจะร่วมแสดงความคิดเห็นอีกครั้ง ส่วนที่ถ้ามติพรรคฯ ออกมาว่ามอบตำแหน่งประธานสภาฯให้พรรคก้าวไกลก็ต้องมีเหตุผลประกอบ

ประธานสภา

เมื่อถามว่าสิ่งที่กังวลคือจะได้ ส.ส. พรรษาน้อยมาเป็นประธานสภาใช่หรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่า ภาษิตอีสานบ้านผม บอกว่าถ้าเอาพระบวชใหม่ มาเป็นเจ้าอาวาสก็ไม่เหมาะสม แต่ ส.ส. ทุกคนสามารถเป็นประธานสภาได้ทุกคน เพราะประชาชนเลือกมาแล้วก็ถือว่าเป็นคำพิพากษาที่ใหญ่

“ต้องขออภัยพรรคก้าวไกลด้วยเพราะเราสูงไล่เลี่ยกัน อย่างที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่ามี เอฟซีพรรคเพื่อไทย ต่างคนต่างมีเอฟซี ซึ่งเอฟซีแต่ละพรรคก็เชียร์ไม่เหมือนกัน จึงอยากให้เอฟซีอยู่ในสถานที่ตั้งที่มั่นคง รอดูการเจรจากัน คิดว่าประชาชนมอบให้เพื่อไทยกับก้าวไกล เป็นปาท่องโก๋ ต้องจัดตั้งรัฐบาล และมีนายกฯชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ให้ได้” นายอดิศร กล่าว

เมื่อถามว่า ถ้ามติพรรคออกมาจะยอมรับได้หรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่า ผมเป็นคนที่มีระเบียบวินัย แต่วินัยนั้นต้องผ่านการถกเถียงกันในพรรคอย่างสมเหตุสมผล ผู้บริหารพรรค หรือตัวแทนพรรคไม่ใช่เจ้าของพรรค ต้องมาถาม ส.ส. และให้เกียรติซึ่งกันและกัน ซึ่งจะทำให้เส้นทางประชาธิปไตยไปได้ด้วยดี

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK