Politics

คมนาคม เร่งปราบ ‘ส่วยสติ๊กเกอร์’ สั่งการ ทล.-ทช. ติดกล้อง-สุ่มตรวจรถบรรทุก

คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วยสติ๊กเกอร์ มอบ ทล.-ทช. สุ่มตรวจรถบรรทุก ติดตั้งกล้องตรวจจับบนถนนสายหลัก-สายรอง

นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัด กระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการติดสินบนเจ้าหน้าที่โดยการติดสติ๊กเกอร์บนรถบรรทุก ครั้งที่ 2/2566 โดยมี นายมนตรี เดชาสกุลสม ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม นายชาครีย์ บำรุงวงศ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการขนส่งทางบก คณะกรรมการ ผู้แทนจากกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และกรมการขนส่งทางบก เข้าร่วมประชุม

ส่วยสติ๊กเกอร์

นายพิศักดิ์ กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการฯ ได้มอบให้คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง  กรณีการติดสินบนเจ้าหน้าที่ โดยการติดสติ๊กเกอร์บนรถบรรทุก โดยมี นายมนตรี เดชาสกุลสม ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการติดสินบนดังกล่าว ว่ามีข้อมูลเป็นความจริงหรือไม่ เกี่ยวข้องกับหน่วยงานใด และให้รายงานผลต่อคณะกรรมการฯ ภายในวันที่ 9 มิถุนายน 2566

หลังจากได้รับการแต่งตั้ง คณะทำงานฯ ได้มีการประชุมเพื่อตรวจสอบกรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2566 และได้ลงพื้นที่ 2 ครั้ง เพื่อตรวจสอบขั้นตอนการดำเนินงานและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำสถานี ระบบตรวจสอบน้ำหนักที่ใช้กับสถานี รวมถึงการทำงานของเครื่องตรวจสอบน้ำหนักเคลื่อนที่ (Spot Check) ดังนี้

  • ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2566 ณ สถานีตรวจสอบน้ำหนักอยุธยา (ขาเข้า) ของกรมทางหลวง (ทล.) และสถานีตรวจสอบน้ำหนักยานพาหนะ ถนนสาย นย.3001 แยก ทล.305 – บ้านบางน้ำเปรี้ยว (ตอนนครนายก) จังหวัดนครนายก ของ กรมทางหลวงชนบท (ทช.)
  • ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2566 ณ สถานีตรวจสอบน้ำหนักอยุธยา (ขาเข้า)

222

ทั้งนี้ คณะทำงานฯ ได้นำข้อมูลทั้งหมด มาใช้ประกอบการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว และสรุปนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการฯ ในวันนี้ โดยที่ประชุมคณะกรรมการฯ ได้ร่วมกันพิจารณาข้อมูลและมีมติ สรุปได้ ดังนี้

1. มอบ ทล. ทช. ทบทวนการดำเนินงานของหน่วยตรวจสอบน้ำหนักเคลื่อนที่ (Spot Check) ซึ่งทำหน้าที่ออกสุ่มตรวจสอบรถบรรทุก ทั้งเส้นทางหลัก สายรอง เส้นทางที่ไม่มีสถานี เส้นทางที่มีการหลบเลี่ยงสถานี และออกตรวจสอบตามข้อร้องเรียน ให้มีความโปร่งใสมากขึ้น

พร้อมกันนี้ ให้นำอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น กล้องตรวจการณ์ (Body Camera) มาใช้ ซึ่งสอดคล้องกับกฎหมายเกี่ยวกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการจับกุม เพื่อให้สามารถทำงานต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดโอกาสในการทุจริตของเจ้าหน้าที่

นอกจากนี้ ในระยะยาว ให้นำทุกกระบวนการเข้าสู่ระบบออนไลน์ เพื่อส่งข้อมูลไปยังศูนย์ควบคุมส่วนกลางแบบ Real Time

333

2. ทล. รายงานว่า ได้ตั้งคณะกรรมการจำนวน 2 ชุด ประกอบด้วย

ชุดที่ 1 เพื่อกำหนดระเบียบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้มีความรัดกุม พร้อมการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงานเพื่อให้เกิดความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น

ชุดที่ 2 เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยจะเชิญ สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย มาให้ข้อมูลประกอบการตรวจสอบ

กระทรวงฯ ขอยืนยันว่าจะดำเนินการทุกขั้นตอน และตรวจสอบทุกประเด็นด้วยความโปร่งใส ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อเท็จจริง และเชื่อมั่นในการดำเนินการของกระทรวงฯ

หากพบว่าหน่วยงาน หรือเจ้าหน้าที่ อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีการทุจริต กระทรวงฯ จะดำเนินการตามระเบียบ และกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้นต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo