General

นิติเวชรับคลิป ‘อัจฉริยะ’ ของจริง!! ยันไม่มีการปกปิดข้อมูล แต่เสียกำลังใจ

“นิติเวช” รับคลิปอัจฉริยะเป็นของจริง!! ยันไม่มีการปกปิดข้อมูล ไม่ได้หลุดจากนิติเวช แต่ไม่ขอพูดหน่วยงานไหน ยันไม่มีการขโมยศพ ชี้บาดแผลศพแตงโมมี 26 บาดแผลตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว

จากกรณีเมื่อวานนี้ (9 พ.ค.65) ที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้มีการเปิดคลิปหลักฐานใหม่ ซึ่งมีการนำศพของ “แตงโม” นักแสดงสาวชื่อดังที่ฝากไว้กับทางสถาบันนิติเวช ออกมาโดยไม่ได้ขออนุญาติ และแจ้งญาติของทนายความของคุณแม่แตงโมก่อน โดยมีการนำศพของแตงโม มาจำลองกับใบพัดเรือ โดยต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลงถึงเรื่องราวทั้งหมด พร้อมกับยืนยันว่าทำตามกฏหมายทุกขั้นตอน ส่วนคลิปที่มีการเปิดเผยออกมานั้นไม่ใช่ของจริง

คลิปอัจฉริยะ

รับคลิปอัจฉริยะของจริง!

ล่าสุด พล.ต.ต.สุพิไชย ลิ่มศิวะวงศ์ ผบก.นิติเวช รพ.ตร. กล่าวว่า คลิปวิดีโอที่นายอัจฉริยะนำไปเผยแพร่ อ้างว่าเป็นภาพการนำศพของ “แตงโม” มาเปรียบเทียบกับใบพัดเรือเป็นเหตุการณ์จริง ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ขณะที่ทีมแพทย์นิติเวช นำร่างของแตงโม จากห้องเย็นไปผ่าพิสูจน์ ตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอ ให้มีการเปรียบเทียบร่องรอยบาดแผลของศพ กับใบพัดเรือของกลาง ว่าเข้ากันได้หรือไม่ โดยใช้สถานที่ 1 ใน 3 ห้องผ่าศพ ที่อยู่ในบริเวณสถาบันนิติเวช ซึ่งห้องดังกล่าวเป็นห้องสำรอง ไว้สำหรับฉีดยา ซึ่งบุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าไปได้ และมีการดำเนินการในวันเวลาราชการ ซึ่งขณะผ่าชันสูตร มีการบันทึกทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ จากทีมชันสูตร 4 คน ประกอบด้วย แพทย์เจ้าของคดี 1 คน ผู้ช่วยแพทย์ 1 คน และช่างภาพ 2 คน ไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี

สำหรับขั้นตอน ตั้งแต่สถาบันนิติเวช รับศพแตงโม วันที่ 26 กุมภาพันธ์ มีการแกะห่อศพ แล้วบันทึกภาพไปกว่า 200 ภาพ โดยพบว่า บนร่างของแตงโม มีบาดแผล 26 บาดแผล ก่อนนำไปผ่าชันสูตรอีกครั้ง ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม พบว่า มีบาดแผลเพียง 22 บาดแผล ซึ่งคลาดเคลื่อนดังกล่าว เป็นที่ยอมรับได้ในทางการแพทย์ เพราะระยะเวลาผ่าชันสูตรห่างกันถึง 19 วัน

คลิปอัจฉริยะ

เสียกำลังใจ

ส่วนกรณีที่มีการนำคลิปไปเผยแพร่ต่อสาธารณชน ยืนยันว่า ข้อมูลดังกล่าว ไม่ได้มีการปกปิด เพราะเป็นข้อมูลที่นำไปใช้ประกอบสำนวนคดี แต่ยืนยันว่า ไม่ได้ออกจากสถาบันนิติเวช โดยข้อมูลนี้ จะส่งต่อให้เฉพาะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการรับผิดชอบสำนวนคดีเท่านั้น ส่วนจะเข้าข่ายความผิดหรือไม่ ต้องดูที่เจตนา

“ยอมรับว่า เกิดความเสียหายกับองค์กร หากพบว่า เป็นการดิสเครดิตเจ้าหน้าที่ ก็ต้องพิจารณาข้อกฎหมายอีกครั้ง ยอมรับว่า เสียกำลังใจ เพราะทุกคนทำงานตามมาตรฐาน และไม่ได้ปกปิดข้อมูล โดยที่ผ่านมาองค์กรไม่มีความขัดแย้ง โดยมีแนวทางและเจตนาเดียวกัน ที่จะทำให้คดีคลี่คลาย” พล.ต.ต.สุพิไชย กล่าว

ส่วนกรณีพบสารอัลปราโซแลม หนึ่งในพยานเพศชายที่อยู่บนเรือกับแตงโมนั้น ยืนยันว่า ยากลุ่มดังกล่าวมีฤทธิ์ต่อจิตประสาท โดยมีฤทธิ์คลายกังวล หรือคลายเครียด ใช้ในการรักษา โรคเครียด ลมชัก นอนไม่หลับ ไม่มีคุณสมบัติกระตุ้นทางเพศ แต่หากใช้ในปริมาณมากอาจทำให้ผู้ใช้ง่วงนอน ส่วนที่เรียกว่า ยาเสียสาว เชื่อว่าเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo