General

ปล่อยผ่านไม่ได้! ตร.โต้เดือด! หลัง ‘อัจฉริยะ’ แถลงเปิดโปง ยันไม่มีใครสั่งการให้คดีบิดเบี้ยว

ข่าวแตงโมล่าสุด! ตร.โต้เดือด! หลัง “อัจฉริยะ” แถลงเปิดโปงขบวนการสร้างหลักฐานเท็จคดี “แตงโม” ยันไม่มีใครส่งการให้คดีนี้บิดเบี้ยว ลั่นปล่อยผ่านไม่ได้!!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนคดีการเสียชีวิตของ “แตงโม” นางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงชื่อดัง ได้ประชุมกันนานกว่า 3 ชั่วโมงเพื่อชี้แจงกรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม ออกมาอ้างว่ามีขบวนการสร้างพยานหลักฐานเท็จในคดีแตงโม

อัจฉริยะ 956512

ตำรวจแถลงโต้ “อัจฉริยะ”

ล่าสุด พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (รอง ผบช.ภ.1) และโฆษก บช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมกันแถลงข่าวตอบโต้กรณีดังกล่าว โดย พล.ต.ต.อุดร ยืนยันว่า ตำรวจชุดคลี่คลายคดีทำงานด้วยความยุติธรรมและโปร่งใส การทำงานในคดีนี้ คณะกรรมการมีการประชุมติดตามความคืบหน้า สรุปผลเป็นระยะ ๆ เสมอมา และยังมีผู้เชี่ยวชาญร่วมทำงาน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครมากดดัน หรือสั่งการให้คดีนี้บิดเบี้ยวได้ เพราะไม่มีใครจะเอาตำแหน่งของตัวเองมาทำคดีให้เสียหายอย่างแน่นอน

เมื่อถามถึงกรณีตำรวจมีการนำศพออกมาพิสูจน์ประกอบแผน หรือสำนวนเพื่อหาความข้องเกี่ยวในพยานหลักฐานนั้น พล.ต.ต.อุดร กล่าวว่า เป็นไปตามกรอบกฎหมาย มีสถานที่ที่เหมาะสม และอยู่ในวันเวลาราชการ กระบวนการทั้งหมดเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย ไม่มีใครกล้ากระทำนอกเหนือกฎหมาย การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานนั้นดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

ตำรวจ แตงโม 95651

ตำรวจปล่อยผ่านไม่ได้

ส่วนคำว่า “ลักศพ” นั้น ในกรณีทั่วไป หากวัตถุพยานที่อยู่ในความครอบครองของเจ้าพนักงานและยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบสวน พนักงานที่มีอำนาจสามารถนำมาตรวจพิสูจน์ได้ ส่วนจำนวนบาดแผลนั้น ไม่เคยมีการพูดถึงจำนวน 11 แผล แต่จำนวนบาดแผล 22 และ 26 บาดแผลนั้น ขึ้นอยู่กับ เทคนิค หลักการ และเวลา โดยวันที่ชันสูตรโดยนิติวิทยาศาสตร์นั้น ก็ไม่มีประเด็นขัดแย้งกัน ยืนยันว่าเป็นเรื่องวิธีคิด เทคนิค เวลา ที่แตกต่างกัน ซึ่งไม่ทำให้สาระสำคัญในคดีเปลี่ยนแปลงไป โดยทุกวันนี้ เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป จึงทำให้ใครก็สามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญและออกความเห็นได้ หากความเห็นเหล่านั้นทำให้กระบวนการยุติธรรมเสียหาย ก็ต้องถูกดำเนินคดี ทั้งนี้ ตนไม่กังวลใจในการทำงานแต่อย่างใดเพราะเป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่กระบวนการโซเชียล

ด้าน พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า คดีนี้ทุกขั้นตอนตำรวจทำงานภายใต้กฎหมายวิธีพิจารณาความคดีอาญา และการจะอ้างอิงผู้เชี่ยวชาญต้องเป็นไปตามที่กฎหมายรองรับและมีองค์กรรับรองอย่างถูกต้อง ตำรวจไม่สามารถเอาบุคคลเพียงคนเดียวที่กฎหมายไม่รองรับมาอ้างอิงเป็นพยานในคดีนี้ได้ ซึ่งในส่วนของคณะพนักงานสอบสวนมีผู้เชี่ยวชาญเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริงและผ่านการรับรองจนสามารถขึ้นให้การในชั้นศาลได้

ดังนั้น กลุ่มบุคคลที่ออกมาแถลงข่าวและตั้งประเด็นสงสัยจนอาจทำให้คดีเสียหายทำให้กระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยวไปทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม จะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ ซึ่งตำรวจปล่อยผ่านไม่ได้

ข่าวแตงโมล่าสุด
พร้อมชี้แจงตลอดเวลา

สำหรับประเด็นที่มีการเผยแพร่คลิปที่อ้างว่าเป็นร่างของแตงโมในการแถลงข่าวจะใช่ร่างแตงโมจริงหรือไมนั้น ตนไม่สามารถตอบได้เพราะขณะนี้คดีอยู่ในชั้นอัยการการสอบสวนแล้ว ไม่สามารถก้าวล่วงในประเด็นนี้ได้

เมื่อถามว่าเหตุใดบุคคลภายนอก และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีเข้าถึงข้อมูลในสำนวนการสอบสวนของตำรวจได้ โฆษก ตร. ระบุว่า ไม่ทราบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวนำข้อมูลที่อ้างมาจากแหล่งไหน ซึ่งหากใครเป็นคนส่งข้อมูลให้ ก็ต้องเตรียมตัวรับผลจากกระทำ เช่นเดียวกับบุคคลที่นำมาเผยแพร่

ส่วนกรณีการลักศพที่มีการพูดถึงว่า ศพถูกนำออกไปพิสูจน์นั้น ขอยืนยันตามหลักการวัตถุพยานว่าสิ่งที่อยู่ในการครอบครองของเจ้าพนักงาน ซึ่งยังไม่สิ้นสุดอายุความ เจ้าพนักงานสามารถนำออกมาตรวจสอบได้ตลอดเวลาและทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย

ด้าน พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 (ผบช.ภ.1) ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ตนมั่นใจในการทำงานของพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีนี้ เจ้าหน้าที่ทุกนายทำตามกระบวนการกฎหมายอย่างโปร่งใสและทำคดีตามพยานหลักฐาน ส่วนกรณีที่ผู้ใดกล่าวหาว่าผิดพลาด คลาดเคลื่อนก็พร้อมให้ตรวจสอบ และจะไปแจ้งที่ไหนก็ได้ชุดเราไม่หวั่นไหว พร้อมชี้แจงตลอดเวลา

ข่าวแตงโมล่าสุด

ใครเป็นคนสร้างหลักฐานเท็จ?

ส่วนกรณีคลิปที่นำมาเปิดเผย การเคลื่อนย้ายร่างยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และตนไม่ทราบเจตนาของบุคคลดังกล่าวที่ออกมาแถลงข่าวว่าต้องการอะไร แต่การกระทำดังกล่าวไม่ได้ทำให้ตน และชุดทำงานสูญเสียกำลังใจอย่างใด ส่วนใครเป็นคนสร้างหลักฐานเท็จต้องติดตามต่อไป ซึ่งคดีนี้ยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม และเมื่อไปสู่ชั้นอัยการ และศาลความจริงทุกอย่างจะปรากฎ ทั้งนี้ระบุว่าคณะทำงานชุดนี้ ไม่มีใครส่งข้อมูลดังกล่าวให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน

ผบช.ภ.1 กล่าวอีกว่า คดีนี้ไม่มีขบวนการตามที่ถูกกลุ่มบุคคลกล่าวหา คณะทำงานจัดตั้งทำคดีร่วมกันนับ 100 ชีวิต ทำกันอย่างจริงจังและทำกันอย่างเต็มที่ โดยอ้างอิงพยานบุคคล อ้างอิงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีตำรวจมีแพทย์และผู้เชี่ยวชาญสาขาอื่น ๆ จำนวนมาก หากมีความผิดปกติ ไม่ชอบธรรม ไม่เชื่อว่าทุกคนจะอยู่เฉยหรือยอมรับได้ ส่วนข้อมูลในคดีที่ถูกส่งต่อให้กับคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องนั้น ไม่สามารถตอบได้ว่าข้อมูลที่ถูกนำมาเผยแพร่เป็นข้อมูลที่เป็นจริงถูกต้องหรือไม่หรือมีที่มาอย่างไร

“ยืนยันไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมืองในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมั่นใจไม่มีตำรวจผู้ปฏิบัติการภายในส่งต่อข้อมูลให้กับบุคคลภายนอกอย่างแน่นอน” ผบช.ภ.1 กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo