Entertainment

‘อัจฉริยะ’ ตั้งโต๊ะแถลงเดือด ‘คดีแตงโม’ ขีดเส้น ‘ผบ.ตร.’ 24 ชม. มั่นใจแซนให้การเท็จ!

“อัจฉริยะ” ตั้งโต๊ะแถลงเดือด “คดีแตงโม” ขีดเส้นตาย “ผบ.ตร.” 24 ชม. ชี้หากยังนิ่ง ไม่เกิน 4 วัน จะมีคนสำคัญไปพบ “พล.อ.ประยุทธ์” มั่นใจคดีนี้ “แซน” ให้การเท็จ

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม แถลงเปิดโปงข้อพิรุธการเสียชีวิตของ “แตงโม” นางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงศ์ นักแสดงสาวที่ดัง ซึ่งพลัดตกเรือเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยนายอัจฉริยะได้มีการเปิดวีดีทัศน์ประเด็นข้อสงสัยสาเหตุในการเสียชีวิต

อัจฉริยะ

 

เริ่มจากเรือลำที่เกิดเหตุเป็นเรือสปีตโบ๊ตโคบอลล์ เมอร์คิวรี่ 300 ได้มีการติดต่อกับต่างประเทศเพื่อหาข้อมูลของเรือรุ่นดังกล่าวมาเปรียบเทียบคุณสมบัติของเรือ และได้ข้อมูลจากจากเว็บไซต์ของโคบอลล์ ประกอบกับ “แซน” ไลฟ์สดถึงสาเหตุการตกเรือของแตงโม และไปออกรายการโหนกระแส มีการยืนยันอีกครั้งในการจับขา และการโทรแจ้งเหตุซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในคดีที่จะเห็นได้ว่าแตงโมตกน้ำได้อย่างไร

พร้อมกันนี้ ได้นำวีดีทัศน์ของตำรวจที่แถลงสรุปสำนวนวันที่ 26 เมษายนซึ่งเป็นเรือลำเกิดเหตุที่ท้ายเรือมีแสงสว่างและน้ำท่วมแผ่นพื้นที่ที่อ้างว่าแตงโมนั่งปัสสาวะ ทำให้เห็นว่าไม่สามารถนั่งปัสสาวะบริเวณดังกล่าวเลย และการแถลงข่าวตำรวจได้มีการยืนยันอีกครั้งว่า แผ่นบอร์ดน้ำท่วมตลอดเวลาไม่สามารถนั่งได้ขณะแล่น

นอกจากนั้น ได้นำภาพของเรือมาประกอบถึงการออกแบบที่ได้มาตรฐานโลกเมื่อตกลงไปไม่สามารถดูดร่างเข้าไปได้แน่นอน และการระบุตำแหน่งจีพีเอสของเรือที่ขัดแย้งกันบ่งบอกถึงข้อพิรุธ สงสัยว่าข้อมูลจีพีเอสสามารถเปลี่ยนแปลงได้หรือตำแหน่งผิดพลาดไม่มีความน่าเชื่อถือ โดยมีการนำตารางเทียบความเร็ว 1 น็อต เท่ากับ 1.852 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

นายอัจฉริยะ ยังระบุอีกว่า ในการแถลงข่าวของตำรวจระบุว่า แซนนั่งที่ท้ายเรือเวลา 22.36.16-22.32.17 น. ได้นำมาปรับแสงไม่มีคนนั่งที่ท้ายเรือตามที่กล่าวอ้าง และคลิปจากกล้องวงจรปิดที่มือเงาที่เห็น ระบุว่าแตงโมหงายหลังจะพิสูจน์ได้อย่างไร และจากคำให้การวนเรือกลับมาหาแตงโมไม่เกิน 30 วินาที แต่ในคลิปใช้เวลา 1.13 วินาที และประเด็นเรื่องเส้นผมที่ยังไม่ได้รับคำตอบจนทุกวันนี้

อัจฉริยะ

นอกจากนี้ ทางชมรมฯ ยังเปิดเผยการสนทนาของนิติเวชทางแมสเซนเจอร์ที่ได้รับมา ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 1 ได้ยอมรับผิดต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งขาติ (ผบ.ตร.) สำหรับหลักฐานที่ได้ทำขึ้นมาร่วมกับหมอนิติเวชที่ทำคดีแตงโม ที่ได้นำมาแถลงสรุปสำนวนเมื่อวันที่ 26 เมษายน และการจำลองชุดสืบสวนที่นำหมูมาทดลองไม่สามารถเข้าได้กับใบพัดเรือ

จากนั้นนายอัจฉริยะ ได้แจ้งให้สื่อมวลชนจับตาการใช้ใบพัดกับศพแตงโมที่ตำรวจระบุว่า ใบพัดเรือเข้ากันได้กับบาดแผลที่ขาของแตงโม พร้อมเปิดคลิปมีการนำศพแตงโมที่ฝากไว้กับสถาบันนิติเวชออกมาโดยไม่ได้ขออนุญาต และแจ้งญาติหรือทนายความก่อน โดยมีการนำศพของแตงโมมาจำลองกับลักษณะการหมุนของใบพัดเรือทำให้เกิดบาดแผล ซึ่งไม่ถูกต้องทางวิชาการจริยธรรม กระบวนการวิจัยระเบียบขั้นตอนการดำเนินงาน ความพร้อมของสถานที่อุปกรณ์และบุคคลากรที่มาทดสอบ

พร้อมกันนี้ ได้นำคลิปสนทนาทางโทรศัพท์ของเพื่อนผู้ต้องหาบนเรือ ที่อ้างมีการยอมรับไม่น่าไปกล่าวอ้างมีการปัสสาวะท้ายเรือที่มันเป็นไปไม่ได้ ทำให้พลาดจุดนี้ก็เลยต้องร่วมกันโกหกทั้งหมด

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า คลิปวีดีโอแสดงให้เห็นว่าหมอนิติเวชนำศพแตงโม ออกมาทำอะไรกับขาจนเกิดบาดแผลใหม่ นอกจากนี้ยังมีคำรับสารภาพการยอมรับผิดของตำรวจภูธรภาค 1 ยศ “พ.ต.อ.” ขึ้นไป และข้อความทางแมสเซนเจอร์ คือ ผู้บัญชาการสถาบันนิติเวชยอมรับว่า บาดแผลที่ขาของแตงโมไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ ที่มีการพูดคุยกับอดีตแพทย์ศัลยกรรม รพ.พระมงกุฎเกล้า นอกจากนี้ มีความพยายามของขบวนการนี้เพื่อให้สอดรับกับคำให้การของแซน โดยวันนี้ได้นำคนชื่อ “ตี๋” มาให้สื่อมวลชนซักถามว่ามีตำรวจระดับ “นายพล” รับงานจริง เป็นเรื่องอัปยศของการติดกระดุมเม็ดแรกของกระบวนการยุติธรรม และทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ก็รับแล้วว่า มีการยอมรับผิดของตำรวจภูธรภาค 1 ถ้าวันนี้ ผบ.ตร. ไม่ทำอะไร วันที่ 10 พฤษภาคมต้องมีคำตอบให้ประชาชน

อัจฉริยะ

“ขบวนการนี้เป็นขบวนการใหญ่ เมื่อคืน เวลา 22.00 น. ก่อนมาแถลงข่าววันนี้ยังมาขอเจรจากับตนอยู่เลย ขอให้หนักเป็นเบาแต่เรายอมไม่ได้ ขบวนการอัปยศนี้เป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรมอย่างร้ายแรง เอาชีวิตผมไปเลย คดีนี้สิ่งที่เกิดขึ้นเห็นได้ชัดว่าทั้งหมอนิติเวช พฐ. ตำรวจสืบสวนสอบสวน ผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ ทำอะไรกัน หมอนิติเวชเริ่มตั้งแต่บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ได้คุยกับตนว่าวันที่พบศพแตงโม โดยหลักต้องมีเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน หมอ ร้อยเวรมาตรวจสถานที่เกิดเหตุชันสูตรเบื้องต้น แต่เขาอ้างว่ามีคนมากไม่สะดวกจึงให้เอาศพไปที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม เมื่อรถไปถึงกลับมาใบสั่งมาจากตำรวจที่ยิ่งใหญ่มาจากไหนถึงสั่งให้นำศพไปที่ สภ.เมืองนนทบุรี มีการเก็บหลักฐานในปากแต่ไม่มีการเก็บหลักฐานซึ่งเป็นทรายที่มือ แล้วนำศพไปที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ และมีการผ่าศพในวันนั้นเลย (26 เม.ย.)” นายอัจฉริยะ กล่าว

จากนั้น รุ่งเช้าวันที่ 27 เมษายนมีการระบุบาดแผลทั้งสิ้น 11 แผล โดยมีหมอ สบ.5 ได้ทำรายงานทั้งหมด 11 แผล เย็บบาดแผลเสร็จเรียบร้อย แม่แตงโมจึงไปที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ และมีการฝากศพไว้เพื่อรอการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ ปรากฏว่าหลังฝากศพไว้ในขณะนั้นพยายามหาร่องรอยของบาดแผลมีการจำลองเหตุการณ์ โดยทำกับหมูหุ่นไปจำลอง แต่ทั้ง 2 อย่างไม่สามารถดูดเข้าไปหาใบพัดเรือได้ ต่อมามีการจำลองตุ๊กตาผ้าเป็นการทำงานที่ไม่ถูกต้อง โดยมี พล.ต.ต. “ว.” เป็นผู้วางแผนในกระบวนการนี้ทั้งหมด

โดยสั่งให้ พ.ต.ต. “ว.” กับพวกไปดำเนินการจำลองทำอย่างก็ได้ให้เข้ากับคำให้การของแซน หลังจากจำลองทั้งหมดแล้วยังบังอาจร่วมกับแพทย์นิติเวชจำลองเหตุการณ์โดยเอาศพแตงโมออกมาจากนิติเวช ทำกันก่อนนำศพส่งไปที่สถาบันิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม จำลองในสถานที่สกปรก เป็นสถานที่โล่งแจ้ง หลังคาผุพังเหมือนไซด์งานก่อสร้าง สถานที่แบบนี้จริยธรรมของหมออยู่ตรงไหน นำศพแตงโมไปจำลองการนำศพแตงโมออกมามีการอนุญาตจากแม่แตงโมหรือยัง

อีกประเด็นใครที่เป็นคนสั่งเอา “ศพแตงโม” ออกมาจำลอง ใบพัดเรือที่เป็นวัตถุพยานสำคัญพนักงานสอบสวนให้แพทย์นิติเวชมาหรือผู้เชี่ยวชาญคนไหนเพราะใบพัดเรือหมุนด้วยมอเตอร์ไม่ใช่มือคน จะหมุนอย่างไรก็ไม่เข้ากับบาดแผล เพราะบาดแผลไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ โดยเฉพาะแผลใหญ่ใบพัดเรือหมุนคนละทางแต่มันเกิดจากการฆาตรกรรมของคนที่มีการทำให้เกิดบาดแผลใหญ่ หมอนิติเวชไม่สามารถชี้ชัดได้แต่กล้าทำหลักฐานเท็จว่า ใบพัดเรือสามรถเข้าได้กับบาดแผล จึงเป็นความอัปยศของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทำรายงานเท็จทำเอกสารปลอมรายงานไปยัง บช.ภ.1 ทำให้ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ. 1 เชื่อเพราะว่ามาจากหมอ

อัจฉริยะ

“อยากถาม พล.ต.อ.สุวัฒน์ ว่าวันนี้จะเอาพวกพ้องหรือเอาความยุติธรรม เมื่อหลักฐานปรากฏชัดเจน ผอ.สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ได้ลงแมสเซนเจอร์ว่าชุดสืบสวนภาค 1 ได้ยอมรับผิดกับ ผบ.ตร. แล้ว ตำรวจเมื่อจนมุมด้วยหลักฐานไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร จึงส่งไฟล์วิดีโอมาเพื่อจะให้หมอคนหนึ่งไปเป็นพยานให้ว่าบาดแผลทั้งหมดเข้าได้กับใบพัดเรือ ผบ.ตร.จะเอาพวกหรือความถูกต้อง ไม่ว่าใครจะแล้วแต่ทุกคนต้องอยู่ภถายใต้กฎหมายเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นนายกฯ หรือ ผบ.ตร.ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันกับประชาชน เมื่อ ผบ.ตร.ละเว้นหลังได้รับแจ้งและรับสารภาพผิดแล้ว หากไม่ดำเนินการ พุร่งนี้ (10 พ.ค.) จะไปดำเนินการกับ ผบ.ตร. ที่ บก.ปปป. โดยจะให้เวลา ผบ.ตร. 24 ชม.ที่จะแก้ไขปัญหาหากไม่ดำเนินการมีความจำเป็นต้องดำเนินคดี มาตรา 157 รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะ ผบ.สถาบันนิติเวชบอกแล้วว่าตำรวจภูธรภาค 1 ยอมรับผิดกับท่านแล้ว” นายอัจฉริยะ ระบุ

ส่วนที่คาดว่าอาจจะมีการฆาตกรรม ถ้าได้มีการตรวจทราบในมือหรือในเท้าของคนบนเรือและทรายที่ปอดแตงโม สามารถนำสืบได้ว่าทรายมาจากแหล่งเดียวกันไหม เพราะการที่แตงโมเสียชีวิตเกิดจากการจมน้ำ โดยหักการสำลักน้ำจะสำลักบริเวณผิวน้ำไม่ได้สำลักใต้น้ำ และบาดแผลบนเรือไม่มีคราบเลือด จากการวิเคราะห์น่าจะเกิดจากของมีคม ตำรวจไม่เคยพูดถึงเรื่องที่เปิดไวน์หรือของมีคมอย่างอื่น แม้กระทั่งบาดแผลของผู้อยู่บนเรือหลายคนมีบาดแผล หมอก็ไม่ฟันธงว่าเกิดจากอะไร ถ้าทำอย่างตรงไปตรงมามาสามารถนำสืบได้หมด

แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ตนมีหลักฐานที่สามารถระบุได้ว่าเหตุเกิดที่ไหน เกิดอย่างไรแต่ไม่มีอำนาจที่จะนำพยานมาสอบปากคำ ไม่มีอำนาจค้นสถานที่ที่เชื่อว่าเป็นที่เกิดเหตุ จึงต้องรอ ผบ.ตร. ตั้งชุดเฉพาะกิจขึ้นมาใหม่ เพื่อความสบายใจของประชาชน เจ้าหน้าที่ชุดเดิมที่อัยการส่งให้สอบเพิ่มจึงไม่มีความชอบธรรมที่จะดำเนินการต่อแล้ว ต้องให้ชุดอื่นทำหรือกองปราบปรามมาทำ ไม่เกิน 15 วัน สามารถนำไปชี้เป้าได้หมด ยืนยันว่ามีพยานสำคัญที่ตำรวจไม่เคยเอามาสอบเลย รู้ว่าเป็นใคร รอว่า ผบ.ตร.จะเอาอย่างไร

ทั้งนี้ หาก ผบ.ตร. ไม่ทำ ไม่เกิน 4 วัน จะมีคนสำคัญไปพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พูดแค่นี้พอ ถ้า ผบ.ตร. ไม่ดำเนินการโยกย้ายหรือตั้งชุดเฉพาะกิจขึ้นมาอีก 4 วัน จะมีผู้ใหญ่ของทางตนซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกันไปพบนายกฯ ทุกคนต้องรับผิดชอบ คดีนี้มั่นใจว่าแซนให้การเท็จ ไม่เช่นนั้นตำรวจเสนอเงินมาให้ตนหยุดตอนนี้ตัวเลขสูงมาก แต่เรายืนยันเดินหน้าต่อ ตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชน แต่มีตำรวจบางคนยอมเอาศักดิ์ศรีตำรวจไปแลกกับสิ่งสกปรก ทำให้คดีบิดเบี้ยวทำให้ไม่สามารถลงโทษกับคนบนเรือได้ จุดที่ตกไม่ใช่เวลา 22.10 น. ตามที่ตำรวจกล่าวมั่ว ๆ คนที่พูดนั้นยังมาเรียนกับผู้เชี่ยวชาญในทีมของตนอยู่เลย ไม่อยากพูดมากเดี๋ยวตำรวจภาค 1 เสียหายไปเยอะกว่านี้ แผนประทุษกรรมครั้งนี้ไม่ได้มีการวางแผนล่วงหน้า เพราะกระติกมีการนัดรถมารับเวลา 22.45 น.แต่บอกว่าแตงโมเสียชีวิต 22.10 น. ห่างกันแค่สิบกว่านาที ถ้ามีการวางแผนฆ่าล่วงหน้าคงไม่ใช่เพียงแต่ว่าแตงโมอาจไปขัดใจใครบางคนทำให้เกิดอารมณ์โมโห

อัจฉริยะ

ขณะที่นายตี๋ (สงวนนามสกุล) ที่เป็นคนสนทนากับเพื่อนปอที่อยู่ในคลิปเสียงระบุว่ามีการกล่าวอ้างแตงโมไปปัสสาวะท้ายเรือ ได้เข้าร่วมแถลงข่าววันนี้ด้วย พร้อมระบุว่า การไปฉี่ท้ายเรือเป็นการวางแผนระหว่างตำรวจระดับนายพล เป็นที่ปรึกษาให้ เนื่องจากขณะนั้นชุลมุนจึงต้องไปปรึกษากับผู้ใหญ่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังแถลงข่าวเสร็จพบว่านายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ พร้อมด้วยแฟนคลับของแตงโม ร่วมให้กำลังใจนายอัจฉริยะในการแถลงข่าวในวันนี้ด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo