General

สปสช. ปรับเกณฑ์ชุดประสาทหูเทียมในเด็กต่ำกว่า 5 ปี ยกเลิกจ่ายเงินให้รพ.

สปสช.ปรับเกณฑ์ชุดประสาทหูเทียมในเด็กต่ำกว่า 5 ปี จากจ่ายเป็นเงินให้โรงพยาบาล เปลี่ยนเป็นจัดซื้อ 30 ชุด วงเงินไม่เกิน 18 ล้านบาท 

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) วันที่ 6 มกราคม 2565 ที่มี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นประธาน มีมติเห็นชอบปรับหลักเกณฑ์การจ่ายรายการอุปกรณ์ชุดประสาทหูเทียมในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2565

เกณฑ์ชุดประสาทหูเทียม

ทั้งนี้ ได้มีมติเปลี่ยนจากการจ่ายเป็นเงิน เป็นการสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ตามโครงการพิเศษ และยังเห็นชอบให้เพิ่มเติมการจัดหารายการชุดประสาทหูเทียม เป็นรายการตามแผนการจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นตามโครงการพิเศษ ประจำปีงบประมาณ 2565จำนวน 30 ชุด วงเงินไม่เกิน 18 ล้านบาท

หลังจากนี้ สปสช. จะแจ้งไปยังเครือข่ายหน่วยบริการโรงพยาบาลราชวิถี เพื่อดำเนินการจัดหาอุปกรณ์ชุดประสาทหูเทียมต่อไป

สำหรับที่มาของการมีมติปรับเกณฑ์ชุดประสาทหูเทียม ดังกล่าว เนื่องจากในปี 2563 บอร์ด สปสช. เคยมีมติเห็นชอบให้อุปกรณ์ประสาทหูเทียม ชนิด Rechargeable สำหรับการผ่าตัดฝังประสาทหูเทียมในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยกำหนดราคาจ่ายชุดละ 300,000 บาท จากการประมาณการจำนวนการใช้ตามโครงการคัดกรองในทารกแรกเกิดกลุ่มเสี่ยงอาจถึง 1,000 คน

นพ.จเด็จ
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี

อย่างไรก็ดี ในปี 2564 ราชวิทยาลัยโสต ศอ นาสิกแพทย์ แห่งประเทศไทย ได้ทำหนังสือขอให้ สปสช.พิจารณาการจัดหาและราคาชุด ประสาทหูเทียม เพราะหน่วยบริการไม่สามารถจัดหาในราคาดังกล่าวได้ เนื่องจากการจัดซื้อครั้งละชุดเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ สปสช. จึงได้เสนอต่อคณะอนุกรรมการจัดทำแผนการจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ เมื่อเดือน พ.ย. 2564 เพื่อเพิ่มเติมการจัดหารายการชุดประสาทหูเทียม ให้เป็นรายการที่กำหนดอยู่ในแผนและวงเงินการจัดหาตามโครงการพิเศษ

ขณะที่ราคาจะอ้างอิงจากการศึกษาของโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ หรือ HITAP ค่าอุปกรณ์ประสาทหูเทียมไม่เกิน 600,000 บาทต่อชุด

สปสช. 2

นพ.จเด็จ กล่าวว่า สำหรับจำนวนอุปกรณ์ที่จัดซื้อ 30 ชุด คำนวนจากจำนวนเด็กเกิดมีชีพจากฐานปี 2562 เพิ่มด้วยอัตราเกิด 1.04% ซึ่งในปี 2565 จะอยู่ที่ 602,942 คน และคาดว่าจะพบเด็กหูตึง+หูหนวก 0.03% ของกลุ่มเสี่ยง หรือ 923 คน

นอกจากนี้ ยังคาดว่าจะพบเด็กหูหนวกที่ต้องได้รับการผ่าตัดฝังประสาทหูเทียมประมาณ 33 คน รวมต้นทุนค่าอุปกรณ์ประสาทหูเทียม 19.8 ล้านบาท แต่เนื่องจากขณะนี้ผ่านช่วงต้นปีงบประมาณมาระยะหนึ่งจึงปรับลดจำนวนที่จะจัดซื้อเหลือ 30 ชุดในวงเงินไม่เกิน 18 ล้านบาท

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo