สปสช. รณรงค์ 29 กันยายน “วันหัวใจโลก” ใช้ใจรับรู้ ดูแล และป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด เผยปีนี้พบผู้ป่วยใหม่โรคหัวใจและหลอดเลือดปีนี้ 12,787 ราย
ทุกวันที่ 29 กันยายน สมาพันธ์หัวใจโลกกำหนดให้เป็น วันหัวใจโลก เพื่อให้ทุกคนร่วมกันตระหนักถึงความสำคัญของโรคหัวใจ ที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของประชากรโลก รวมถึงประเทศไทย โดยในปีนี้กำหนดประเด็นรณรงค์ คือ USE HEART KNOW HEART : ใช้ใจรับรู้ ดูแล และป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
ทั้งนี้ โรคหัวใจและหัวใจขาดเลือด เกิดจากหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจมีภาวะตีบหรือตัน ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจได้รับเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ และทำให้กล้ามเนื้อหัวใจเกิดการทำงานที่ผิดปกติ กระตุ้นให้เกิดลิ่มเลือดอุดตัน หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงหัวใจได้อย่างทันที รวมถึงอาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง และอาจเสียชีวิตเฉียบพลันได้
จากข้อมูลวันที่ 26 กันยายน 2566 มีรายงานผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด จำนวน 673,691 ราย และเสียชีวิตจำนวน 39,970 ราย โดยเป็น ผู้ป่วยรายใหม่ในปี 2566 จำนวน 12,787 ราย (ระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์ Health Data Center : HDC)
สำหรับสาเหตุมาจากปัจจัยหลายประการ ทั้งจากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ อาทิ กรรมพันธุ์ อายุ และเพศ เป็นต้น รวมถึงปัจจัยที่สามารถควบคุมได้ เช่น พฤติกรรมบริโภคอาหาร การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น แม้ว่าโรคนี้จะพบมากในผู้สูงอายุ แต่ปัจจุบันพบว่ามีรายการการตรวจพบในผู้ที่อายุยังน้อย หรือยังอยู่ในช่วงวัยรุ่นด้วย
อาการและสัญญานเตือนของโรคที่พบบ่อย
ผู้ป่วยจะมีอาการแน่นหน้าอกอย่างรุนแรง วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดร้าวไปกราม คอ สะบักหลัง แขนซ้าย เหนื่อยหายใจไม่ทัน บางรายอาจมีอาการจุกบริเวณใต้ลิ้นปี่คล้ายโรคกระเพาะหรือกรดไหลย้อน
เมื่อเกิดภาวะเหล่านี้ผู้ป่วยต้องได้รับการรักษาให้เร็วที่สุด ไม่ควรรอดูอาการที่บ้าน เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยหาแนวทางการรักษาที่ถูกต้อง
กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีสิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาลที่ครอบคลุมโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (STEMI) รวมถึงโรคหัวใจอื่น ๆ เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษา และลดภาระค่าใช้จ่าย ซึ่งผู้ป่วยสามารถเข้ารับการรักษาตามสิทธิได้ตามการวินิจฉัยของแพทย์
นอกจากนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์บริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้กับประชาชนทุกคนทุกสิทธิการรักษาที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป เพื่อคัดกรองปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
ทัั้งนี้ จะเป็นการประเมินโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมไปถึงการให้คำปรึกษา เพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมรวมถึงการพิจารณาให้ยาเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- กรมอนามัย เผยผลวิจัย ‘ขยับร่างกาย’ 150 นาทีต่อสัปดาห์ ลดเจ็บป่วย ‘โรคหัวใจ-สมอง’ มากถึง 38%
- เตือนกลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจ เสี่ยงเสียชีวิตสูง หากมีอาการฮีทสโตรก
- ชวนคนแก่เดิน ผลวิจัยชี้ ผู้สูงอายุเดิน 6,000 ก้าวต่อวัน ช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด