กรมอนามัย เผยผลวิจัย “ขยับร่างกาย” 150 นาทีต่อสัปดาห์ ลดการเจ็บป่วย “โรคหัวใจ-สมอง” มากถึง 38%
นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากข้อมูลผลการศึกษาแบบติดตามระยะยาว (Retrospective cohort study) ในสหราชอาณาจักร ของวารสารวิชาการ JAMA ประจำเดือน กรกฎาคม 2566 ที่ศึกษาติดตามการมีกิจกรรมทางกายด้วยการติดอุปกรณ์วัด (accelerometer) เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ในกลุ่มประชากรอายุเฉลี่ย 62 ปี จำนวน 89,573 คน และติดตามผลลัพธ์ทางสุขภาพ เฉลี่ย 6 ปี พบว่า
ขยับร่างกาย 150 นาทีต่อสัปดาห์ ลดป่วยโรคหัวใจ-สมอง 38%
การมีกิจกรรมทางกายเพียงพออย่างน้อย 150 นาที ต่อสัปดาห์ สามารถช่วยลดการเจ็บป่วยโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจขาดเลือด หัวใจล้มเหลว และหลอดเลือดสมอง (Stroke) ได้ประมาณ 22-38% เมื่อเทียบกับผู้ที่มีกิจกรรมทางกายน้อยกว่า 150 นาที ต่อสัปดาห์
นอกจากนี้ หากเปรียบเทียบระหว่างผู้ที่มีกิจกรรมทางกายเพียงพอด้วยกัน ระหว่างกลุ่มแรกที่มีกิจกรรมทางกายในสัดส่วนที่มากในช่วงวันหยุด หรือ “นักรบวันหยุด (weekend warrior)” กับกลุ่มหลังที่มีกิจกรรมทางกายเพียงพอในสัดส่วนที่มากในช่วงวันธรรมดา หรือ “ขยับวันธรรมดา (active regular)” พบว่า กลุ่มแรก จะมีโอกาสเจ็บป่วยด้วยโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจล้มเหลว และหลอดเลือดสมอง (Stroke) น้อยกว่าเล็กน้อย อยู่ที่ 2-5% ส่วนกลุ่มหลังจะมีโอกาสเจ็บป่วยด้วยโรคหัวใจขาดเลือดน้อยกว่า หรือ 8%
กิจกรรมทางกายในวันหยุดหรือวันธรรมดา ล้วนส่งผลดีต่อร่างกาย
ด้าน นายแพทย์อุดม อัศวุตมางกุร ผู้อำนวยการกองกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ กล่าวว่า จากรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวัน และลักษณะการทำงานของคนไทยที่เปลี่ยนแปลงไป คือ ออกแรงน้อยลง (office-based) และอาจมีภาระงานในวันธรรมดามากจนไม่มีเวลาออกกำลังกาย อาจใช้วิธีออกกำลังกายในวันหยุดชดเชยแทน
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมีกิจกรรมทางกายในวันหยุดหรือวันธรรมดา ล้วนส่งผลดีต่อสุขภาพทั้งสิ้น นอกจากนี้ ควรลดการมีพฤติกรรมเนือยนิ่ง (การนั่งหรือนอนราบ) เป็นระยะเวลานานๆ ในแต่ละวัน ที่ส่งผลร้ายต่อหลอดเลือดหัวใจและสมอง และทำให้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วย
กรมอนามัยขอแนะนำกิจกรรมทางกายระหว่างวัน โดยลุกยืนจากการนั่งทำงานบ่อยๆ เช่น ทุก 60 นาที หรือปรับโต๊ะให้สามารถยืนทำงานได้ ด้วยการตั้งจอคอมพิวเตอร์บนหนังสือหรือลังกระดาษ ทั้งนี้ ให้ยึดจากองค์การอนามัยโลก คือ “ทุกการขยับนับหมด (every move counts)” เพื่อร่างกายที่แข็งแรงและมีสุขภาพดี
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เด็กติดเกม’ กรมสุขภาพจิต แนะผู้ปกครอง ป้องกันตั้งแต่เริ่มต้น แนะ 3 ข้อ ก่อนปล่อยลูกเล่นเกม
- ‘มะเร็งตับและท่อน้ำดี’ มะเร็งอันดับ 1 ที่คนไทยต้องระวัง แพทย์แนะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ
- หมอธีระ เผยผลวิจัย ‘แคะจมูก’ เสี่ยงติดโควิดสูงถึง 3.8 เท่า