General

แก้ม เจ้าของปังชา ร่ำไห้กลางโหนกระแส ยกสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาหมด ขอโทษเหยื่อยื่นโนติส

เคลียร์ทุกประเด็นดราม่า #ปังชา ผู้ประกอบการที่ได้โนติส มาพร้อมหน้า เอาให้ชัด ใช้ได้หรือไม่ได้ ฟ้องหรือไม่ฟ้อง แก้ม ลูกไก่ทอง ร่ำไห้กลางรายการ

ดราม่า “ปังชา” ยังไม่คลี่คลาย หลังมีผู้ประกอบการร้านขนมหวานหลายร้าน ได้รับโนติสเตือน จากร้าน “ลูกไก่ทอง” ร้านดังที่ไปจดลิขสิทธิ์ ปังชา Pang Cha จนเป็นกระแสดราม่าขึ้นมา ว่าหลาย ๆ ร้านถูกเรียกค่าเสียหายหลักล้าน ถึงร้อยล้านบาท เพราะไปใช้คำว่าปังชา ไม่เพียงเท่านั้น ล่าสุดมีร้าน Tang Jai Chong – ตั้งใจชง คาเฟ่ดังในเมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้รับโนติส เรียก 2 ล้าน เหตุใช้ถ้วยไอศกรีมเหมือนร้านดัง รายการโหนกระแสวันนี้ (1 ก.ย.) เชิญเจ้าของร้านทุกร้านมาร่วมพูดคุยกันในรายการ

12 เจ้าของปังชา โหนกระแส 3

คุณนุ๊ก และ คุณมายด์ เจ้าของร้านตั้งใจชง เคสล่าสุดที่โดนเรื่องภาชนะ เปิดใจว่า ตนได้รับหนังสือโนติสเมื่อประมาณวันที่ 30 เมษายน 2566 โดยเอกสารระบุว่า “ขอให้ยุติการใช้ผลิตภัณฑ์ถ้วยไอศกรีม ที่ได้รับสิทธิบัตรของผู้อื่น เนื่องจากบริษัทผู้ร้องนั้นได้รับสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ จากกรมทรัพทย์สินทางปัญญา

โดยทนายความผู้รับมอบอำนาจ ระบุขอให้ร้าน ตั้งใจชง ยุติการใช้ผลิตภัณฑ์ถ้วยไอศกรีมดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นผลิต ขาย ใช้ภายในร้าน หรือแม้แต่เป็นภาพถ่ายเพื่อการโฆษณา โดยขอให้ลบรูปภาพดังกล่าวออก นับตั้งแต่ได้รับหนังสือฉบับนี้ หากท่านยังเพิกเฉย ไม่ยุติการใช้ผลิตภัณฑ์ถ้วยไอศกรีมดังกล่าว บริษัท ขอคิดค่าเสียหายในส่วนนี้ เป็นจำนวนเงิน 2,000,000 บาท และจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป”

คุณนุ๊ก กล่าวว่า ร้านของตนได้ปิดร้านไปเมื่อช่วงโควิด-19 และเพิ่งกลับมารีโนเวตเปิดร้านเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ตนคาดว่าทางร้านดังคงเห็นภาพถ้วยไอศกรีมของร้านตนจากตามเพจต่าง ๆ ที่ได้มีการรีวิวร้านตนไป เพราะร้านตั้งใจชงเป็นที่รู้จักในหาดใหญ่อยู่แล้ว

12 เจ้าของปังชา โหนกระแส 2

สำหรับถ้วยไอศกรีมที่ร้านดังจดสิทธิบัตรนั้น ทางร้านยืนยันว่าไม่เหมือนกันเลย โดยของร้านตนจะเป็น 3 หยัก แต่ของร้านดังจะเป็น 4 หยัก และตนไปซื้อถ้วยดังกล่าวมาจากตลาดนัดจตุจักรเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ยังถามกับพนักงานในร้านเลยว่าตกลงเราผิดหรือ เราไปเลียนแบบเขาจริงเหรอ และตนก็ได้โต้แย้งไปแล้วว่าหากจะจับจริง ๆ คงต้องไปจับคนผลิตถ้วย ไม่ใช่มาฟ้องร้านเล็ก ๆ แบบนี้ อีกทั้งหากว่าจะจดลิขสิทธิ์จริง ๆ ควรจะมีเอกลักษณ์ที่ยากต่อการเลียนแบบกว่านี้

อย่างไรก็ตาม หลังได้รับหนังสือโนติส ตนก็มองว่าร้านของตนเป็นร้านค้าเล็ก ๆ การเสีย 2 ล้านบาทไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ และได้มีการพูดคุยกับทนายร้านดัง แล้วไม่อยากมีปัญหา จึงทำการเปลี่ยนถ้วย 3-4 วันหลังจากนั้น รวมถึงลบภาพทุกอย่างที่เห็นภาพถ้วยออก แต่ส่วนที่มีการรีวิวตามเพจต่าง ๆ ตนก็ไม่สามารถไปบอกให้เขาลบได้ อีกทั้ง ตนมองว่ามันเกิน 48 ชั่วโมงไปแล้ว

เพื่อนของตนที่เป็นนักธุรกิจก็เคยแนะนำแล้วว่าถ้วยของร้านดังกับร้านตั้งใจชงนั้นเหมือนกันอย่างไร พร้อมกับบอกตนว่าไม่เห็นจำเป็นต้องเปลี่ยนถ้วยเลย แล้วบังเอิญว่าวันนี้เพื่อนคนดังกล่าวมาที่ร้าน จึงได้โพสต์เรื่องราวดังกล่าวลงเฟซบุ๊กไป และไม่ได้คิดว่าจะเป็นประเด็นขึ้นมา

คุณนุ๊ก กล่าวว่า สำหรับเมนูที่ร้านตนที่เป็นเมนูปังเย็นราดชาไทยนั้นมีมานานแล้ว ตั้งแต่ร้านเปิดเมื่อปี 2016 โดยใช้ชื่อเมนูว่า “ปังหนาว” หรือ “ปังเย็นชาไทย”

12 เจ้าของปังชา โหนกระแส 4

ขณะที่ นายอรรณพ บุญสว่าง ทนายความของฝั่งร้านลูกไก่ทอง ยอมรับว่า มีการออกโนติสไปจริง และก็คงต้องขอโทษทุกคนที่ได้รับผลกระทบต่อเรื่องนี้ แต่ก็ต้องขอให้สังคมเข้าใจว่า เราทุกคนล้วนได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายเดียวกัน ก็คือกฎหมายในเรื่องลิขสิทธิ์

ทนายยืนยันว่า คำว่า “ปังชา” ที่ทางบริษัทไปจด มันได้รับความคุ้มครองภายใต้กฎหมาย มันจดลิขสิทธิ์ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาได้ เพราะแบรนด์นี้ สินค้านี้ ถูกขายถูกใช้จนแพร่หลาย มันพิสูจน์มาแล้ว จนผ่านการขออนุญาต ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายทั้งหมด

สำหรับร้านต่าง ๆ ที่ใช้ชื่อปังชา ซ้ำกับชื่อร้านที่เราไปจดลิขสิทธิ์ ถ้าเขาไม่ได้มีเจตนาจะทำให้คนสับสนเข้าใจผิด เราก็ไม่มีเจตนาจะเรียกเงินจากเขา หากมันทำให้เขาเสียขวัญ หรือเกิดความตกใจ ทางเราต้องขอโทษ และเสียใจต่อเหตุการณ์นี้

ส่วนเรื่องภาชนะ ถ้วยที่ใส่ กรณีของร้านคุณนุ๊ก ที่บอกว่าซื้อมาจากจตุจักร ทางทนายบอกว่า ภาชนะแบบที่ร้านของเราไปจดทรัพย์สินทางปัญญา เป็นเรื่องการออกแบบผลิตภัณฑ์ เป็นไอเดีย เป็นการออกแบบ ที่ได้รับความคุ้มครอง เพราะฉะนั้นการใช้ภาชนะที่ดูแล้วมีความคล้าย หรือดูแล้วตั้งใจทำให้คล้ายหรือสับสน เราก็ต้องรักษาผลประโยชน์ของเราเหมือนกัน

ทนายอรรณนพ ยืนยันว่า ทางเราตั้งใจจะเจรจากับทุกคน หลายร้านมีการออกจดหมาย ออกโนติสไปก่อนหน้า โดยไม่ได้มีเนื้อหาเข้มข้นแบบนี้ แต่ไม่ได้รับการแก้ไข เราก็ต้องส่งไปใหม่ให้มีความเข้มข้นกว่าเดิม ยืนยันว่าต้องการพูดกันในฐานะมนุษย์ ก่อนที่จะใช้กฎหมายมาบังคับอยู่แล้ว

12 เจ้าของปังชา โหนกระแส 7

ขณะที่ นางสาวทักษอร สมบูรณ์ทรัพย์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมาย กรมทรัพย์สินทางปัญญา ให้ความรู้ในเรื่องกฎหมายว่า “เครื่องหมายการค้า” ไม่สามารถใช้คำที่บ่งบอกถึงคุณสมบัติของตัวสินค้าได้ เช่น ใช้แล้วขาว ใช้แล้วสวย ตรงนี้ใส่ไม่ได้ เพราะคนอื่นที่เขาขายสินค้าสิ่งเดียวกัน ต้องมีสิทธิ์จะใช้ข้อความเหล่านั้นได้เช่นกัน จะสงวนสิทธิ์ไม่ได้

แต่การจดเครื่องหมายการค้า จะแยกบางส่วน ส่วนใดส่วนหนึ่งออกมาไม่ได้ การจดทะเบียนของร้านลูกไก่ทอง เป็นการจดทั้งหมด ทั้งโลโก้ตัว G ประดิษฐ์เป็นลูกไก่ แล้วมีคำว่า Pang Cha ปังชา เหล่านี้จะแยกบางส่วนออกมาสงวนสิทธิ์ไม่ได้ ดังนั้น ทำให้ร้านค้าอื่น ๆ ใช้คำว่า “ปังชา” หรือ “Pang Cha” ได้เหมือนเดิม ซึ่งในเรื่องนี้ ทางร้านลูกไก่ทอง ยอมรับแต่โดยดี

12 เจ้าของปังชา โหนกระแส 5

ขณะที่ คุณแก้ม เจ้าของแบรนด์ลูกไก่ทอง เดินทางมาร่วมรายการในช่วงท้าย ได้ยกมือกราบขอโทษทุกคน โดยอ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เธอเคารพนับถือ ขออโหสิกรรม และยืนยันว่าไม่มีเจตนาจะทำร้ายใคร ตนตั้งใจจะสร้างแบรนด์เพื่อชื่อเสียงของคนไทย ไม่ใช่เพื่อตัวเองคนเดียว การทำธุรกิจของตน ตนทุ่มเทมาด้วยความคิดและมันสมอง ยืนยันว่าตนไม่สามารถทำธุรกิจจากการลอกเลียนแบบใครได้

ต่อมาคุณแก้มร้องไห้กลางรายการ กล่าวถึงความพยายามในการสร้างแบรนด์ของตัวเอง ยืนยันว่าถ้วยทองเหลืองที่ไปจดลิขสิทธิ์ มันมาจากภูมิปัญญา มาจากการคิดค้น ด้วยความคิดของตัวเอง เราเสียใจที่สุดที่ตอนนี้มันไปอยู่ในมือของต่างชาติ

ส่วนประเด็นเรื่องการลอกเลียนแบบลายผู้หญิงไทย ที่ดูเทียบเคียงแล้วคล้ายกับภาพโปรโมตของสุรายี่ห้อดัง คุณแก้มชี้แจงว่า ภาพวาดเป็นภาพที่ไปจ้างบริษัทมาวาด โดยใช้ภาพของตัวคุณแก้มเองเป็นต้นแบบ ซึ่งคุณแก้มไปใส่ชุดไทยถ่ายแบบ มีคลิปทั้งหมด ซึ่งในตอนที่บรีฟทางบริษัท ได้บอกว่าเราชอบศิลปะแบบไทย ๆ ชอบแนวทางคล้าย ๆ กับ รีเจนซี่ แต่ไม่ได้มีเจตนาจะลอกเลียนแบบใคร

12 เจ้าของปังชา โหนกระแส 8

12 เจ้าของปังชา โหนกระแส 1

12 เจ้าของปังชา โหนกระแส 6

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo