“หมอเฉลิมชัย” ตอบข้อสงสัย ตรวจ ATK ขึ้น 4 ขีด เพราะอะไร ที่แน่ ๆ ถือว่าเชื่อถือไม่ได้ ให้ทดสอบใหม่ทันที
นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย เรื่อง ATK ขึ้น 4 ขีด แปลว่าอะไร เป็นโควิดมาก เป็นน้อย แปลผลไม่ได้ หรือทำขึ้นเองเล่น ๆ โดยระบุว่า
จากที่ในปัจจุบัน มีการใช้ชุดทดสอบด้วยตนเองที่บ้าน เพื่อตรวจหาการติดเชื้อไวรัสโคโรนาก่อโรคโควิด หรือที่เรียกว่า ATK กันเป็นจำนวนมาก จนประชาชนทั่วไปเริ่มมีความคุ้นเคยกับการตรวจดังกล่าว
แม้ในช่วงแรก จะยังติดขัดและไม่ค่อยเข้าใจ โดยเฉพาะในเรื่องการแปลผล หรืออ่านผลว่าติดเชื้อหรือไม่อย่างไร
จนถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่ก็จะเข้าใจกันดีว่า ถ้าปรากฏแถบสีชัดเจน 2 ขีด คือขีดที่ตำแหน่ง C (Control) และตำแหน่ง T (Test) แปลว่าผลเป็นบวก หรือน่าจะติดเชื้อ ซึ่งมีความแม่นยำในระดับมากกว่า 90%
กรณีที่ขึ้นขีดเดียวที่ตำแหน่ง C แปลว่า ผลเป็นลบหรือไม่มีการติดเชื้อ
นอกจากนี้ไม่ว่า จะขึ้นขีดเดียวแต่ผิดตำแหน่ง คือขึ้นที่ตำแหน่ง T หรือขึ้นมากกว่า 2 ขีด ก็ให้ถือว่าแปลผลไม่ได้ทั้งสิ้น ต้องทำการทดสอบใหม่ อาจจะโดยใช้ ATK หรือ PCR ตามแต่ความเหมาะสมต่อไป’
ดังนั้น ในกรณีที่มีการตรวจพบว่าแถบของ ATK ขึ้นถึง 4 ขีด (ตามที่ปรากฏในสื่อโซเชียล) จึงไม่ได้แปลผลอย่างที่บางท่านเข้าใจว่า ติดเชื้อไวรัสมากถึง 3-4 สายพันธุ์ หรือแปลว่าติดเชื้อรุนแรงเป็น 3-4 เท่าแต่อย่างใด
หากแต่แปลว่า ผลการทดสอบดังกล่าวนั้นเชื่อถือไม่ได้ ซึ่งมีเหตุปัจจัยมากมายหลายประการได้แก่
- คุณภาพของชุดทดสอบ
- การเก็บรักษาหลังจากที่ซื้อมาแล้ว
- ขั้นตอนการตรวจผิดพลาด
- ขั้นตอนการอ่านผลไม่ถูกต้อง
โดยหลักวิชาการแล้ว โอกาสหรือความเป็นไปได้ที่จะมีแถบสีขึ้นมากกว่า 2 ขีดนั่น เป็นไปได้ยากมาก อาจจะเป็นเรื่องการทำแถบสีเพิ่มขึ้นเอง จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
แต่ถึงแม้เป็นเรื่องจริง ที่เกิดหตุผิดพลาดทางเทคนิคจนขึ้นมากกว่า 2 ขีด ก็เป็นเรื่องที่ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ที่จะมาทำความเข้าใจกัน เรื่องการอ่านผลกาทดสอบ ATK
กล่าวโดยสรุป ถ้าผล ATK ออกมามากกว่า 2 ขีด แปลว่าเชื่อถือไม่ได้ ให้ทำการทดสอบใหม่ทันที
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โอไมครอนระบาดทั่วโลก 3 เดือน ‘หมอเฉลิมชัย’ สรุปให้ เรียนรู้อะไรบ้าง
- ‘หมอเฉลิมชัย’ แนะ 3 เรื่องที่ไทย ‘จำเป็น’ ต้องทำ เพื่อรับมือโอไมครอน
- ‘หมอเฉลิมชัย’ คาดจุดพีค ติดโควิดสูงสุด 5 หมื่นรายต่อวัน เสียชีวิตไม่เกิน 50 ราย