COVID-19

‘หมอเฉลิมชัย’ เผยผลการศึกษาไทย ฉีดเข้าผิวหนัง ประหยัดวัคซีนได้ 5-10 เท่า

“หมอเฉลิมชัย” เปิดผลการศึกษาของไทย ฉีดเข้าผิวหนังแทนการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ประหยัดวัคซีนได้ 5-10 เท่า ได้ภูมิคุ้มกันเท่าเทียมกัน

นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chalermchai Boonyaleepun ถึงผลการศึกษาของไทย ยืนยัน ประหยัดวัคซีนได้ 5-10 เท่า ถ้าฉีดเข้าผิวหนังแทนการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ โดยได้ภูมิคุ้มกันเท่าเทียมกัน โดยระบุว่า

ฉีดเข้าผิวหนัง

“การศึกษาไทยยืนยัน ประหยัดวัคซีนได้ 5-10 เท่า ถ้าฉีดเข้าผิวหนังแทนการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ โดยได้ภูมิคุ้มกันเท่าเทียมกัน

จากสถานการณ์ขาดแคลนวัคซีนโควิดทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศที่ไม่สามารถผลิตวัคซีนเป็นของตนเองได้ ส่วนใหญ่จะมีวัคซีนไม่พอให้ฉีด

แต่หลายประเทศมีวัคซีนในภาพรวมเพียงพอ แต่ประชาชนไม่ต้องการฉีด แต่อยากฉีดวัคซีนของอีกบริษัทหนึ่ง ที่มีไม่เพียงพอแทน ทำให้เกิดปัญหา ในการเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรโดยเร็ว

การแก้ปัญหาดังกล่าว นอกจากจะเร่งผลิต หรือจัดซื้อจัดหาวัคซีน มาให้เพียงพอกับความต้องการโดยเร็วแล้ว การใช้เข็มชนิดพิเศษ ที่ทำให้ฉีดวัคซีนได้จำนวนมากขึ้น ก็เป็นวิธีที่น่าสนใจ

รวมทั้งวิธีการฉีดวัคซีนเข้าผิวหนัง (ID : Intradermal) แทนการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ (IM : Intramuscular) ก็จะทำให้สามารถครอบคลุมการฉีดวัคซีนได้ดีขึ้นมาก เพราะใช้วัคซีนน้อยกว่า 5-10 เท่า หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ วัคซีนปริมาณเท่ากัน แต่ฉีดให้ประชาชนได้มากขึ้น 5-10 เท่าตัว

วัคซีน 3

มีรายงานในต่างประเทศ ถึงการศึกษาการฉีดวัคซีนเข้าชั้นผิวหนังว่า สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ขึ้นสูง ได้เทียบเท่ากับการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ เช่น ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ใช้วัคซีนเทคโนโลยี mRNA ของ Moderna

หลายภาคส่วน อยากทราบว่า ถ้าเป็นการฉีดในคนไทย โดยบุคลากรไทยเป็นผู้ฉีด และเป็นวัคซีนที่ไทยใช้เป็นหลักอยู่ในปัจจุบัน จะยังได้ผลดีเหมือนการศึกษาในต่างประเทศหรือไม่

ขณะนี้ ได้มีรายงานการศึกษาของไทยเราเอง ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต พบว่าการฉีดกระตุ้นเข็มที่สามด้วยวัคซีนไวรัสเป็นพาหะ (AstraZeneca) ตามหลังการฉีดวัคซีนเชื้อตาย (Sinovac) สองเข็ม

โดยเปรียบเทียบวิธีการฉีดตามมาตรฐานเดิมคือ ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ กับวิธีการฉีดเข้าชั้นผิวหนัง พบว่า ได้ภูมิคุ้มกันสูงเท่ากัน แต่ประหยัดวัคซีนได้มาก 5-10 เท่า

การฉีดแบบใหม่เข้าชั้นผิวหนัง จะพบผลข้างเคียงแบบทั่วไปลดลงอย่างมาก โดยมีผื่นหรือการเจ็บปวดเฉพาะตำแหน่งที่ฉีดมากกว่า

LINE ALBUM วัคซีนโควิดรพ 3.สนาม ๒๑๐๙๑๓

การวิจัยเก็บข้อมูลครั้งนี้ ใช้อาสาสมัคร 242 คน โดยทั้งหมดได้ผ่านการฉีดวัคซีน Sinovac สองเข็มมาแล้วมากกว่าสี่สัปดาห์ และได้ทำการตรวจก่อนฉีดเข็มสามว่าไม่มีการติดเชื้อ โดยแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม

กลุ่มที่หนึ่ง ฉีดด้วยวัคซีนเข้ากล้ามเนื้อ พบว่าระดับภูมิคุ้มกันขึ้นจาก 330 เป็น 17,214 AU/ml

ในขณะที่วิธีฉีดแบบใหม่คือ ฉีดเข้าผิวหนัง ภูมิคุ้มกันขึ้นจาก 366 เป็น 17,662 AU/ml ซึ่งถือว่าระดับภูมิคุ้มกันสูงเทียบเท่ากัน

และยังพบต่อไปว่า การฉีดแบบใหม่คือ เข้าชั้นผิวหนัง จะพบผลข้างเคียงแบบทั่วไปน้อยกว่า คือพบเพียง 70 ราย เมื่อเทียบกับฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 98 ราย

แต่จะพบผลข้างเคียงเฉพาะที่มากกว่าคือ 39 รายต่อ 13 ราย โดยอาการที่พบเฉพาะที่ได้แก่ ปวดบวมแดง หรือมีผื่นตำแหน่งที่ฉีด

จึงเป็นการศึกษาของไทยเราเอง ที่ยืนยันการศึกษาของต่างประเทศว่า การฉีดวัคซีนโควิดเข้าชั้นผิวหนัง ได้ระดับภูมิคุ้มกันเทียบเท่ากับการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ แต่ประหยัดวัคซีนมากกว่า 5-10 เท่า

ซึ่งจะเป็นข้อมูลที่สำคัญ นำไปใช้ประกอบการวางนโยบายการฉีดวัคซีนในระดับประเทศ ให้เกิดการครอบคลุมที่เร็วที่สุด ภายใต้สถานการณ์วัคซีนที่มีจำกัดยังไม่เพียงพอในปัจจุบัน”

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo