หลังจาก วัคซีนไฟเซอร์ 1.54 ล้านโดส ที่สหรัฐบริจาคให้ไทย เดินทางถึงประเทศไทยแล้ว เมื่อเช้านี้ สธ.เร่งติวออนไลน์ วิธีการผสม ฉีด ที่ต่างจากแอสตร้าเซนเนก้า และซิโนแวค โดยเฉพาะการ ผสมน้ำเกลือ ก่อนฉีด
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า วัคซีนไฟเซอร์ ที่รับบริจาคมาจากสหรัฐ 1.54 ล้านโดส ต้องเก็บในคลังวัคซีนที่กำหนดไว้ เนื่องจากการเก็บวัคซีนไฟเซอร์ จะต้องเก็บในอุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียส จากนั้นมีการสอนวิธีผสมการฉีดวัคซีน
สำหรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของไฟเซอร์ จะไม่เหมือนกับวัคซีนที่ประเทศไทยเคยใช้ ทั้งแอสตร้าเซนเนก้า และซิโนแวค ที่ดูดจากขวด 2-8 องศาเซลเซียส แล้วสามารถฉีดได้เลย
ขณะที่วัคซีนของไฟเซอร์ จะต้องเก็บในอุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียส จากนั้นก็จะส่งไปยังหน่วยฉีด เพื่อเก็บที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส ซึ่งวัคซีนจะอยู่ได้ไม่นาน มีอายุอยู่ได้ราว 4 สัปดาห์ ดังนั้น เมื่อกระจายไปแล้วต้องรีบใช้
นอกจากนี้ วิธีการใช้ ก็แตกต่างกัน โดยต้องมีกรรมวิธีการผสม เนื่องจากเป็นวัคซีนเข้มข้น จึงต้องผสมน้ำเกลือลงไปให้ได้ตามสัดส่วน และดูดจากขวดใหญ่ เพื่อฉีดกับประชาชน โดย 1 ขวดจะฉีดได้ 6 คน
ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุข จึงต้องเตรียมการทั้งการเก็บรักษา การผสมวัคซีน และนัดหมายการฉีด ซึ่งจะต้องอบรมบุคลากรอีกครั้ง ผ่านระบบออนไลน์
แผนจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ 1.54 ล้านโดส
- บุคลากรการแพทย์ดูแลผู้ป่วยโควิดทั่วประเทศ 700,000 โดส
- กลุ่มเสี่ยง (ผู้สูงอายุ / ผู้มี 7 โรคเรื้อรัง อายุ 12 ปีขึ้นไป / หญิงตั้งครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป )ในจังหวัดระบาดสูง 645,000 โดส
- ชาวต่างชาติในไทย เน้นผู้สูงอายุ / มีโรคเรื้อรัง และผู้จำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศ 150,000 โดส
- ทำการศึกษาวิจัย 5,000 โดส
- สำรองส่วนกลาง 40,000 โดส
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อนุทิน’ รับมอบ ‘วัคซีนไฟเซอร์’ 1.5 ล้านโดส ขอบคุณสหรัฐที่ช่วยไทยสู้โควิด
- เฮ!! วัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดสจากสหรัฐส่งถึงประเทศไทยแล้ว
- ถกแขนเสื้อรอ!! กต.แจง ‘ไฟเซอร์’ 1.54 ล้านโดสส่งถึงไทยพรุ่งนี้