COVID-19

เคาะแล้ว! ก.ค.นี้ ฉีดวัคซีนบูสเตอร์โดส บุคลากรการแพทย์ งัด 4 มาตรการคุมโควิด

ฉีดวัคซีนบูสเตอร์โดส แอสตร้าเซนเนก้า บุคลากรการแพทย์ กรกฎาคมนี้ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เห็นชอบ กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้บุคลากรการแพทย์ด่านหน้า พร้อมเคาะ”ฉีดวัคซีนสลับชนิด”  เข็มที่ 1 ซิโนแวค เข็มที่ 2 แอสตร้าฯ ห่างกัน 3-4 สัปดาห์ ใช้ชุดตรวจ แรพิด แอนติเจน เทส 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เปิดเผยว่า คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีมติเห็นชอบมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ใน  4 ประเด็นหลัก โดยประเด็นเร่งด่วนคือ การฉีดวัคซีนบูสเตอร์โดส ให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยจะใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เป็นวัคซีนหลัก

ฉีดวัคซีนบูสเตอร์โดส

ทั้งนี้ ภาพรวมสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ยังน่าเป็นห่วง ยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง จากการระบาดของสายพันธุ์เดลตา และแพร่กระจายไปยังจังหวัด ซึ่งขณะนี้พบผู้ติดเชื้อกว่า 10,000 หมื่นราย หรือประมาณ 1 แสนกว่ารายในสองสัปดาห์นี้ ส่งผลให้การอัตราการเสียชีวิตมากขึ้น จึงต้องมีมาตรการป้องกันโรคที่เข้มงวดและมีประสิทธิภาพ

สำหรับมาตรการยาแรงที่ดำเนินการพร้อมกัน ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด คือ ห้ามมีการรวมกลุ่มกันเกิน 5 คน ปิดสถานที่เสี่ยง จำกัดการเดินทางข้ามจังหวัด ลดจำนวนขนส่งสาธารณะข้ามจังหวัดระยะไกล ให้มีการ Work From Home ของเอกชนและรัฐมากที่สุด

พร้อมกันนี้ ได้มีการปรับแผนฉีดวัคซีน ระดมฉีดให้แก่ผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค และตั้งเป้าฉีดวัคซีนอายุ 60 ปีขึ้นไปให้ได้ 1 ล้านคนใน 2 สัปดาห์นี้ โดยเฉพาะพื้นที่ระบาดรุนแรงในกทม.และปริมณฑล ซึ่งปัจจุบันฉีดวัคซีนไปแล้วมากกว่า 12 ล้านโดส แต่กลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ยังฉีดให้กลุ่มนี้น้อย ไม่ครบตามที่ตั้งเป้า จึงต้องเร่งฉีดให้มากที่สุดและโดยเร็วที่สุด

เปิดมติที่ประชุม 4 เรื่องหลัก ย้ำฉีดวัคซีนบูสเตอร์โดส

1. เห็นชอบการฉีดวัคซีนโควิดสลับชนิด โดยเข็มที่ 1 เป็นซิโนแวค เข็มที่ 2 เป็นแอสตร้าฯ ระยะห่างกัน 3-4 สัปดาห์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อกลายพันธุ์เดลตา โดยรพ.ต่าง ๆ สามารถดำเนินการได้ทันที เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ที่เสียสละดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง

อนุทิน
อนุทิน ชาญวีรกูล

2. ที่ประชุมรับทราบการฉีดวัคซีนแบบบูสเตอร์ โดส โดยให้วัคซีนเข็มที่ 3 ห่างจากเข็ม 2 ในระยะ 3-4 สัปดาห์ขึ้นไป โดยบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มเกิน 4 สัปดาห์แล้ว จึงจะดำเนินการฉีดกระตุ้นบูสเตอร์โดส ได้ทันที เพื่อกระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันสูง และเร็วที่สุดกับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ที่เสี่ยงสัมผัสเชื้อโควิด จากการปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วย และจากการกลายพันธุ์จากอัลฟา มาเป็นเดลตา จึงยิ่งมีความจำเป็นต้องฉีดกระตุ้น

ทั้งนี้ การบูสเตอร์ โดส จะเป็นแอสตร้าเซนเนก้า เป็นหลัก เพราะมีข้อมูลทางวิชาการว่า การให้วัคซีนกระตุ้นคนละชนิดจะเป็นผลดีต่อการสร้างภูมิคุ้มกันในบุคคล เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 มากขึ้น

3. เห็นชอบแนวทางในการใช้ชุดตรวจ แรพิด แอนติเจน เทส ในสถานพยาบาล ลดการไปรอคิวนานจากการรอตรวจ RT-PCR ซึ่งใช้เวลานาน โดยชุดตรวจแรพิด แอนติเจน เทสมาใช้นั้น ต้องมีการผ่านการรับรอง และขึ้นทะเบียนกับ อย. ปัจจุบันมีผู้มาขึ้นทะเบียนแล้ว 24 ราย โดยจะอนุญาตให้ตรวจมาตรฐานในสถานพยาบาลกว่า 300 แห่ง ซึ่ง

นอกจากนี้ เตรียมพิจารณาอนุญาตให้ประชาชน สามารถใช้ตรวจได้เองที่บ้าน ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด จะมอบหมายให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

อนุทิน1

4. เห็นชอบแนวทางการแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) และแยกกักในชุมชน (Community Isolation) สำหรับผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรง สามารถแยกกักที่บ้าน หรือในส่วนของชุมชนนั้น ก็จะเป็นการแยกกักในบ้านที่อยู่ในชุมชนจำนวนมาก

การดำเนินงานทั้งหมด จะมีระบบติดตาม มีเครื่องมือวัดออกซิเจนในกระแสเลือด มียา โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีแนวทางและจัดส่งอาหารให้ผู้ป่วยทุกราย ซึ่ง สปสช. จะร่วมมือกับรพ.ที่เป็นเจ้าภาพในการดูแลเรื่องนี้

นอกจากนี้ ยังรับทราบเรื่องหน่วยบริการปฐมภูมิ ในพื้นที่ กทม. เพื่อเข้าดูแลผู้ป่วยถึงบ้าน ทั้งทางกายและจิตใจ หรือผู้ป่วยที่กลับมาจากรพ.แล้ว และจะมีชุดคัดกรองแรพิด แอนติเจน เทสไปให้บริการถึงชุมชนถึงบ้านที่ตัวเองอยู่

อย่างไรก็ตาม เรื่องที่ยังต้องปฏิบัติคือ การดูแลป้องกันโรค สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ไม่รับประทานอาหารร่วมกัน ทั้งในบ้าน และนอกบ้าน ลดการเดินทาง ตามแนวทางที่ศบค.กำหนดไว้ ซึ่งมั่นใจว่าจากมาตรการ และความร่วมมือร่วมใจของประชาชนทุกคน จะลดจำนวนผู้ป่วยโควิดได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo