“หมอเฉลิมชัย” เผยไวรัสโควิด โอไมครอน HK.3 ใช้เทคนิครูปแบบใหม่ กลายพันธุ์ตำแหน่งคู่ติดกัน แบบพลิกขั้วซ้ายขวา หลบภูมิคุ้มกันได้มากขึ้น ส่งผลระบาดเร็วขึ้นกว่า XBB1.16 ถึง 95%
นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย เรื่อง ไทยพบ โอไมครอน HK.3 ไวรัสใหม่ล่าสุด ปรับตัวสุดชีวิต แพร่ระบาดโควิดเก่งมากขึ้นถึง 95% โดยระบุว่า
โรคโควิด-19 เกิดจากไวรัสโคโรนาลำดับที่ 7 ซึ่งมีอวัยวะสำคัญคือ ส่วนหนาม (Spike) ที่ใช้เกาะกับเซลล์ของมนุษย์ แล้วมุดเข้าไปภายใน ทำให้มนุษย์เกิดการติดเชื้อไวรัส และป่วยเป็นโรคโควิด-19 ในที่สุด
ร่างกายของมนุษย์ก็มีระบบภูมิคุ้มกัน (Immune System) ที่ใช้ต่อสู้ตอบโต้ โดยการสร้างโปรตีนขึ้นมาเรียกว่า แอนติบอดี (Ab : Antibody)
ซึ่งโปรตีนดังกล่าวหรือ Ab นี้ จะเกิดขึ้นได้ ทั้งจากการฉีดวัคซีน และการติดเชื้อโดยธรรมชาติ เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสใช้ส่วนหนามเกาะเซลล์ของเราได้ จะได้ไม่เกิดการติดเชื้อ และป่วยเป็นโรคในที่สุด
แต่ไวรัสเองก็สู้สุดชีวิต มีการปรับเปลี่ยนส่วนหนาม เพื่อให้ Ab ของเราจับส่วนหนามของไวรัสไม่ได้ ที่เรียกว่า ไวรัสกลายพันธุ์ (Mutation)
รายงานการศึกษาล่าสุดพบว่า ไวรัสได้มี เทคนิคใหม่เอี่ยม (New tric) ที่เรียกว่าการกลายพันธุ์ตำแหน่งคู่ติดกัน (Double/Combo) แบบพลิกขั้วซ้ายขวา (Flip)
คือเกิดการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งที่ 455 และ 456 ที่อยู่ติดกัน โดยการเปลี่ยนแปลงชนิดของกรดอะมิโนโครงสร้าง จาก L เป็น F และจาก F เป็น L คือ L455F / F456L
ทำให้รูปร่างของหนามเปลี่ยนไป และส่งผลให้ไวรัสมีคุณสมบัติใหม่ คือ
1. สามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันของมนุษย์ได้ดีขึ้น เนื่องจาก Ab เข้าจับหนามของไวรัสได้ยากขึ้น
2. แต่ในขณะเดียวกัน หนามรูปร่างใหม่นี้ กลับสามารถจับผิวเซลล์ของมนุษย์ได้ดีขึ้น ทำให้ติดเชื้อและเกิดการแพร่ระบาดของโรคได้ง่ายขึ้น
โดยขณะนี้ มีไวรัสอยู่สองสายพันธุ์ใหม่คือ GK (XBB.1.5.70) ซึ่งกลายพันธุ์มาจาก XBB.1.15 และ HK.3 ซึ่งกลายพันธุ์มาจาก EG.5.1 พบในประเทศไทยแล้ว 3 ราย
ไวรัสนี้มีความสามารถในการแพร่ระบาด มากกว่าไวรัสสายพันธุ์หลักของไทยในปัจจุบัน (XBB1.16) มากถึง 95%
ยังไม่มีรายงานเพิ่มเติมว่า ไวรัสชนิดนี้มีความสามารถในการก่อให้เกิดอาการป่วยที่รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมหรือไม่อย่างไร
แต่ทิศทางของไวรัสโคโรนา ที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 ตลอดสามปีเศษที่ผ่านมานั้น มีทิศทางไปในแนวเดียวกันทั้งหมด
คือมีความสามารถในการแพร่ระบาดติดเชื้อเร็วขึ้น แต่ไม่เพิ่มความรุนแรงในการก่อโรค
ก็หวังว่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ HK.3 ก็คงจะเป็นทำนองเดียวกัน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เกาะติด โอไมครอนสายพันธุ์ใหม่ HK.3 เจอในไทยแล้ว 3 ราย แพร่ระบาดเร็วกว่า XBB.1.16 ถึง 95%
- WHO จับตา ‘โอไมครอน BA.2.86’ หวั่นระบาดทั่วโลก เพราะหลบภูมิจากวัคซีนได้ และตรวจ PCR ลดลง
- กลยุทธ์ใหม่โควิด ‘กลายพันธุ์พลิกขั้ว’ กำเนิดสายพันธุ์ใหม่ ‘GK และ HK’ คาดแทนที่ XBB และ EG.5.1