COVID-19

เปิดผลสอบโรค ชายไทยวัย 71 ติดโควิด ดับบนเครื่องบิน ลูกเรือช่วยไม่ทัน

เปิดผลสอบสวนโรค ชายไทยวัย 71 ปี เสียชีวิตบนเครื่องบิน ขณะเดินทางกลับจากซาอุดีอาระเบีย ตรวจ ATK ขึ้น 2 ขีด ผู้โดยสารเห็นนั่งคอพับ เรียกลูกเรือช่วยแต่ไม่ทัน

จากกรณีพบผู้เสียชีวิตบนเครื่องบิน เป็นชายไทย อายุ 71 ปี ระหว่างเดินทางจากซาอุดีอาระเบีย มายังไทย เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ร่วมกับฝ่ายแพทย์การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ดำเนินการสอบสวนโรคเบื้องต้นไปแล้วนั้น

เสียชีวิตบนเครื่องบิน

ล่าสุด นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดี กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเดินทางไปแสวงบุญ ที่ซาอุดีอาระเบีย พร้อมสมาชิกครอบครัวรวม 5 คน ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 ขณะอยู่ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย 3 วัน ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย โดยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 2 เข็ม และไม่ได้รับการฉีดกระตุ้นเข็มที่สาม

นอกจากนี้ ยังได้รับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่น โดยญาติผู้เสียชีวิตปฏิเสธการแพ้ยา และผู้ป่วยมีโรคประจำตัวเป็นโรคหอบหืด

ก่อนหน้านี้ ผู้เสียชีวิตมีอาการหอบหืด เหนื่อย ไอ จึงรักษาตามอาการ เมื่อถึงกำหนดเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 10 ธันวาคม 2565 ก่อนขึ้นเครื่องบินผู้เสียชีวิต มีอาการอ่อนแรง ต้องนั่งรถเข็นมาส่งหน้าประตูเครื่องบิน

เสียชีวิตบนเครื่องบิน
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์

ขณะอยู่บนเครื่อง เวลาประมาณ 8.00 น. (เวลาประเทศไทย) ผู้โดยสารที่นั่งใกล้ ๆ สังเกตเห็นอาการผิดปกติ มีลักษณะนั่งคอพับ จึงได้แจ้งลูกเรือให้การช่วยเหลือ ซึ่งไม่พบสัญญาณชีพของผู้เสียชีวิต จึงได้ทำการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) โดยลูกเรือกับพยาบาลต่างชาติ ที่เป็นผู้โดยสารบนเครื่อง และมีการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) แต่ไม่มีสัญญาณชีพใด ๆ

นอกจากนี้ เนื่องจากผู้ป่วยเข้าเกณฑ์โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS) ซึ่งถือเป็นโรคติดต่ออันตราย ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด จึงเก็บตัวอย่างจากโพรงจมูกส่วนหลัง ส่งตรวจโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS) และ โรคโควิด19 โดยวิธี RT-PCR ณ สถาบันบำราศนราดูร และ ห้องปฏิบัติการด่านควบคุมโรคฯ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผลพบสารพันธุกรรมของไวรัส SARS-CoV-2 (โควิด 19) แต่ไม่พบสารพันธุกรรมของไวรัส MERS เจ้าหน้าที่ได้ส่งศพผู้เสียชีวิตไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป

เสียชีวิตบนเครื่องบิน

ทางด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และขอให้ประชาชนเชื่อมั่น ประเทศไทยได้วางระบบเฝ้าระวังคัดกรองไว้อย่างรัดกุม โดยประสานความร่วมมือกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจคัดกรองนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง หากผู้เดินทางมีอาการป่วยสงสัย หลังจากเดินทางกลับจากต่างประเทศ ที่มีรายงานโรคอุบัติใหม่ขอให้ไปตรวจรักษาและแจ้งประวัติการเดินทางกับแพทย์

พร้อมกันนี้ ยังได้ย้ำถึงมาตรการสําคัญสําหรับประชาชนทั่วไป และกลุ่มเสี่ยง 608 คือการเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ได้อย่างน้อย 4 เข็ม และผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มสุดท้ายนานเกิน 4-6 เดือน ให้รีบไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน ป้องกันการป่วยหนัก และลดโอกาสการเสียชีวิตจากโรคโควิด19 ทุกสายพันธุ์ที่พบในขณะนี้ โดยสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้านทั่วประเทศ

สําหรับผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศ และเป็นกลุ่มเสี่ยงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นก่อนเดินทางอย่างน้อย 14 วันก่อนเดินทาง ทั้งยังควรสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยเจลแอลกอฮอล์ และเว้นระยะจากผู้อื่น

เสียชีวิตบนเครื่องบิน
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค

หากประชาชนมีอาการป่วยทางเดินหายใจ ให้สังเกตอาการตนเอง และไปพบแพทย์เมื่อมีอาการมากขึ้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรคโทร. 1422

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo