Sports

‘กกท.’ เร่งต่อราคาซื้อลิขสิทธิ์ ‘ฟุตบอลโลก 2022’ ชี้ 1.6 พันล้านสูงไป ยอมรับ คนไทยอาจไม่ได้ดูถ่ายสด

ผู้ว่าการ กกท. ระบุ กำลังเร่งเจรจากับฟีฟ่า ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายสด “ฟุตบอลโลก 2022” ระบุราคา 1,600 ล้านบาทสูงเกินไป ยอมรับถ้าไม่ลดราคา คงซื้อไม่ได้ และจะไม่มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกครั้งนี้ 

วันนี้ (14 พ.ย.) การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช. )เพื่อยืนยันว่า กสทช.พร้อมสนับสนุนเงิน 600 ล้านบาท จากกองทุนวิจัยและพัฒนาสื่อ (กทปส.) แต่ กสทช.จะมอบเงิน 600 ล้านบาทให้ ก็ต่อเมื่อ กกท.นำสัญญาที่ทำไว้กับ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) มาแสดงต่อ กสทช.

ฟุตบอลโลก 2022

นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกกท. กล่าวถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการหาผู้สนับสนุนจากภาคเอกชน เพื่อซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022 ว่า ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการให้จบโดยเร็วที่สุด เงื่อนไขต่าง ๆ ที่ส่งไปให้ฟีฟ่านั้นครบถ้วนแล้ว โดยอยากจะให้ฟีฟ่าพิจารณาเรื่องราคาที่เหมาะสมอีกครั้ง รวมไปถึงการแบ่งแพ็กเกจย่อยได้ไหม ตรงนี้ต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง ซึ่งคิดว่าน่าจะได้คำตอบในวันนี้

“วันนี้มาลงนามกับกสทช.ถือเป็นเรื่องสำคัญ เป็นขั้นตอนที่เราจะได้เบิกจ่ายเงิน เพื่อนำมาใช้ซื้อลิขสิทธิ์นี้ เราได้ส่งเรื่องให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาเรื่องแล้ว ส่วนเงิน เราก็ได้ธนาคารกรุงไทย ที่ให้การดูแลเป็นอย่างดี ทุกอย่างกำลังขับเคลื่อนไป ตอนนี้อยู่ที่การตัดสินใจของฟีฟ่าว่า จะเอาอย่างไร ขณะนี้ภาคเอกชนก็ให้การตอบรับและพร้อมให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี แต่ยังขอไม่เผยรายละเอียด”

ฟุตบอลโลก 2022

ก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวว่า มีภาคเอกชน ที่เปิดเจรจาขอรับการสนับสนุนไป มีตอบรับแบบปากเปล่ามาแล้ว 3 บริษัทเอกชน คือ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่จะให้เงินงบประมาณ 400-500 ล้านบาท แต่ยังไม่เพียงพอ

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า กกท. ยังรอคำตอบอีก 2 บริษัท คือ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จํากัด (มหาชน) และบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.)

นายก้องศักด บอกด้วยว่า เรื่องเงินที่ยังขาดอีกเท่าไรนั้น ยังตอบไม่ได้ เพราะทางฟีฟ่ายังไม่ได้ตอบมาเรื่องจำนวนที่ชัดเจน แต่พยายามต่อรองให้เขาลดราคาให้ได้ ซึ่งถ้าเป็นจำนวน 1,600 ล้านบาท คงไม่จ่ายราคานี้ เป็นตัวเลขที่มากเกินควร ถ้าเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ราคานี้ถือว่าสูงเกินไป

“เดดไลน์ของเราคือก่อนวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ ถ้าคุยไม่ลงตัวก่อนวันที่ 20 และฟีฟ่าไม่ยอมลดราคาจริง ๆ คงต้องทำความเข้าใจกับประชาชน ถ้าเป็นราคาที่สูงเกินไป คงรับไม่ได้ ครั้งนี้ก็อาจจะไม่มีการถ่ายทอดสดเกิดขึ้น ซึ่งทาง พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ก็เข้าใจ แต่เรายังเชื่อว่าทางฟีฟ่า และประเทศไทย จะมีเจตนาเดียวกัน เชื่อว่า ทางฟีฟ่าคงจะมีทางออกหรือข้อเสนออื่น ๆ ให้ได้พิจารณา”

ฟุตบอลโลก 2022

อย่างไรก็ดี มีรายงานก่อนหน้านี้ ถึงท่าทีของฟีฟ่าคือ ไม่ยอมลดราคาให้เหลือ 30 ล้านดอลลาร์ ตามที่ฝ่ายไทยร้องขอ โดยบอกว่าถ้าไทยจะซื้อในราคาที่ถูกกว่า 38 ล้านดอลลาร์ ต้องซื้อเมื่อ 2 ปีที่แล้ว

นอกจากนี้ ฟีฟ่า ยังยืนยันที่จะไม่ขายแพ็คเกจย่อย คือ ซื้อตั้งแต่รอบ 2 หรือรอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่ต้องซื้อเต็มแพ็คเกจ 64 นัดเท่านั้น

ส่วนขั้นตอนการซื้อ ฟีฟ่าได้ขีดเส้นตายไว้คือ ภายในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ ต้องปิดดีลกับฟีฟ่าให้สำเร็จ จากนั้นในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 จะต้องโอนเงินทั้งหมดไปให้ฟีฟ่า พร้อมภาษี 15 %  โดยไทยมีทางเลือก 2 ทาง คือ ยอมจ่ายลิขสิทธิ์เต็มจำนวน 1,600 ล้านบาท กรณีที่เอเยนต์ฟีฟ่าไม่ยอมลดราคา หรือไม่ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo