นุ๊ก สุทธิดา ป่วยมะเร็งร่วม 2 ปี ปวดใจสามีไม่เชื่อ เผยชนะคดีบ้านแต่เจอปัญหาเพิ่ม

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 12 พฤศจิกายน 2565

นุ๊ก สุทธิดา รักษามะเร็งร่วม 2 ปี แต่ยังพบเชื้ออยู่ เผยชนะคดีบ้านแต่เจอปัญหาเพิ่ม ยันจะสู้ให้ถึงที่สุด แม้ได้ไม่คุ้มเสีย

ก่อนหน้านี้ นักแสดงสาว-อดีตนักร้องสาวยุค 90’s นุ๊ก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา ได้เข้ารับการรักษาผ่าตัดไทรอยด์บวม จนทำให้ตรวจพบความผิดปกติ ที่ลามไปต่อมน้ำเหลืองประมาณ 18 จุด โดยผลตรวจเผยว่า เป็นเซลล์มะเร็งต่อมน้ำเหลือง จึงต้องผ่าตัดออก กระทั่งเสร็จสิ้นกระบวนการรักษา ได้กลับมาอยู่บ้านพร้อมหน้าครอบครัวและลูก ๆ ท่ามกลางเพื่อนพ้อง และแฟน ๆ ที่ส่งกำลังใจมาให้อย่างล้นหลาม

ล่าสุด นุ๊ก สุทธิดา ได้ออกมาอัพปเดตอาการป่วยมะเร็งไทรอยด์ และคดีบ้าน “ตอนนี้ก็ยังต้องไปหาคุณหมอทุก ๆ 3 เดือน เพื่อติดตามผล ถามว่าเรายังมีเซลล์มะเร็งอยู่ไหมหลังจากที่ตัดไปแล้ว ก็ตัดไปทั้งไทรอยด์เลยแล้วก็ต่อมน้ำเหลืองอีก 18 จุด ก็ยังเจอก้อนมะเร็งอยู่ เพียงแต่ว่าเราก็ต้องอัลตราซาวด์ทุก 6 เดือน คือคุณหมอบอกว่ามันยังไม่ได้โตมันอยู่ในโซนที่รับได้ ก็ต้องฟอลโลว์กันต่อไป อาการก็จะมีเหนื่อยง่ายตามประสาของคนที่รักษามะเร็ง แล้วก็ผมร่วง เราก็ต้องดูแลเป็นเคส ๆ ก็ต้องเปลี่ยนทัศนคติแล้วก็จิตใจของเรา เพราะว่าบางคน พอพูดถึงมะเร็งมันก็จะออกเสียงได้ไม่เต็มปากเต็มคำ แต่นุ๊กก็จะพยายามเปลี่ยนแอดติจูดว่า ก็แค่มะเร็ง มันก็แค่เป็นอย่างนึงที่เราเป็น”

“พอมองในแง่ดีว่าจริง ๆ แล้วการตายมันก็เกิดกับทุกคนอยู่แล้ว และโชคดีที่เราได้ตระหนักรู้ถึงการตายอย่างแท้จริงด้วยการที่เราได้มีสิทธิ์เป็นมะเร็ง เราได้ตระหนักรู้แล้วว่าการตายมันอยู่แค่เอื้อม มันเลยทำให้เป้าหมายในการมีชีวิตอยู่ของนุกมันชัดเจนมาก ๆ ว่าเราอยู่เพื่อใครอยู่ยังไง ที่เหลือก็ต้องควบคู่กันกับการดูแลตัวเอง”

“เป็นมะเร็งแล้วเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเยอะมาก ยิ่งกว่าเปลี่ยนสามีอีกค่ะ การเป็นมะเร็งเป็นอะไรที่เปลี่ยนไลฟ์สไตล์สุด ๆ เลยค่ะ เชื่อไหมว่าสามียังมีความนอยด์เสมอว่า ภรรยาตัวเองอาจจะไม่ได้เป็นมะเร็งจริง ๆ ด้วยความที่เราบอกว่า เธอฉันเป็นมะเร็งนะ แล้วฉันก็ผ่าตัดวันนี้นะ แล้วตอนไปผ่าก็คือขับรถไปคนเดียว แล้วเวลาที่ไปกลืนแร่ ประหนึ่งให้คีโม ก็ขับรถกลับบ้านคนเดียว”

“คือสามีไม่ได้มาดูแลเลย ระหว่างนั้นจนเพื่อนเอาชิ้นเนื้อที่คุณหมอตัดแล้วถ่ายคลิปวิดีโอไปให้สามีดูเหมือนเขาจะเชื่อนะ แต่ทุกวันนี้เขาก็ถามว่า จริงๆ แล้วยูต้องไปหาหมอทุก ๆ กี่เดือนเหรอ คือมีความวัดใจเราว่าจริง ๆ อ่ะ เราต้องไปหาหมอไหม เราก็บอกว่าทุก ๆ 3 เดือน”

“แล้วในขณะที่เราต้องรักษามะเร็ง เราอยู่ห่างกัน เขาอยู่มาเลเซีย ก็มีการส่งกำลังใจให้กัน ก็มีวิดีโอคอลบ้างค่ะ คือนุ๊กก็ไม่ชอบให้มาแบบ…ตลอดเวลา คือเหมือนมันจะต้องมีช่วงที่พอดีซึ่งกันและกันอยู่ อย่างเวลานุ๊กป่วยไม่ว่าจะป่วยกายหัวใจนุ๊กชอบฮีลตัวเอง พักจากทุกคนจะจัดแจงตัวเองให้หาย พอเราหายแล้วเราค่อยเจอคนอื่น คือแม้กระทั่งคนในครอบครัว นุ๊กก็จะเป็นแบบนี้ ฉันรักษาตัวเอง ฉันหายแล้ว ฉันจะเดินออกไป”

“ส่วนเรื่องบ้านที่เป็นข่าวโด่งดัง (โดนผู้เช่าบ้านทำบ้านพังยับเยิน เพราะมีการแปรสภาพบ้านให้เป็นโรงงานผลิตถุงมือยางย้อมสี ซึ่งผิดกฏหมาย จนเป็นเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล) คือเขาโดนจับไปเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ใช่คู่สัญญานะคะ แล้วเขาก็ไม่ได้โดนจับในคดีเรา เขาไปโดนจับคดียิงปืน ตามไปยิงกันอะไรแบบนี้ค่ะ แต่ว่าคดีของเราคนที่เป็นคู่สัญญาคือคุณแม่ของเขา เราฟ้องศาลไปแล้ว คุณแม่ไม่ไปขึ้นศาล คือศาลตัดสินใจเรียบร้อยแล้วนะคะว่าเขาต้องใช้หนี้”

“แต่ทีนี้พอสืบทรัพย์ไป ปรากฏว่าเขาโอนย้ายทรัพย์นั้นหลังจากที่เราไปไปติดประกาศว่า เขาเป็นลูกหนี้เรา คือไปแตะไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์เขาก็โอนทรัพย์ของเขาไปเป็นชื่ออื่น ซึ่งตอนนี้เราต้องไปที่สถานีบึงกุ่ม เพื่อไปแจ้งความเรื่องการโอนย้ายทรัพย์สินตรงนี้ คือไปแจ้งความมาตั้งแต่ต้นปีแล้วค่ะ (พนมมือไหว้) ในฐานะมิสสน. ยังไงก็ขอฝากสน. ไว้ในอ้อมใจช่วยดูแลเคสนี้ด้วยนะคะ เพราะตั้งแต่ต้นปีแล้วก็ยังไม่เรียกเขามาสอบเลย ก็อยากให้มันจบสิ้นแล้ว”

“เรื่องบ้านยังไม่จบง่าย ๆ เรื่องนี้เราได้ไม่คุ้มแน่นอน แต่ว่ามันไม่ใช่การไปเอาเงินแล้วอ่ะ มันคือการทวงความถูกต้องของเรา เราอยากให้เขารู้ว่าเขาไม่ควรทำอย่างนี้กับใครอีกเลย คือมันมีเจ้าหนี้หลายรายมาก เขาติดต่อเข้านุ๊กมา ความเสียหายกับสิ่งที่ต้องจ่ายไปอีก กับสิ่งที่ได้กลับมามันไม่คุ้ม ซึ่งเราเข้าใจนะคะ เราอ่ะขอเป็นตัวแทนหมู่บ้านแล้วกัน”

ภาพจาก IG : @nook_suttida