Entertainment

สมาคมทนายความ ออกโรงชี้ ดราม่าเดี่ยว 13 ฟ้อง โน๊ส อุดม ได้หรือไม่?

สมาคมทนายความลงความเห็น ดราม่าเดี่ยว 13 ไม่ผิดกฎหมาย เป็นการแสดงความเห็น รัฐบาลเป็นบุคคลสาธารณะ ต้องรับการวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนให้ได้ อย่าใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือดำเนินคดีคนเห็นต่าง

จากกรณีดราม่าโชว์ไมโครโฟน เดี่ยว 13 ของศิลปินชื่อดัง โน้ส-อุดม แต้พานิช ที่กล่าวเสียดสีรัฐบาล และพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จนมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์แตกออกเป็น 2 ฝั่ง บ้างก็มองว่าแรงเกินไปหรือไม่ อีกด้านก็มองเป็นเรื่องปกติ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ โน้ส พูดถึงผู้นำประเทศบนเวทีเดี่ยว จนกลายเป็นธรรมเนียมที่จะพูดถึงเรื่องการเมืองไปแล้วนั้น

13 เดี่ยว 13 โน้ส อุดม 1

ล่าสุด (14 ต.ค.) นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย แถลงข้อความผ่าน เฟซบุ๊กสมาคมทนายความ ความว่า ตามที่เกิดประเด็นเกี่ยวกับ การแสดงเดี่ยวไมโครโฟน 13 ของคุณโน้ส อุดม แต้พานิช บางส่วนที่เป็นการแสดงความคิดเห็นในเชิงวิพากษ์วิจารณ์ ว่า การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ล้มเหลว ซึ่งก็มีประชาชนแสดงความคิดเห็น ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย อันนำไปสู่ประเด็นที่มีบุคคลอ้างว่า การกระทำของ คุณโน้ส อุดม แต้พานิช ไร้เหตุผล ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อสาธารณชน และผิดกฎหมาย

สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ขอแสดงความคิดเห็นว่า ด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 34 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อสารความหมายโดยวิธีอื่น การจำกัดเสรีภาพดังกล่าวจะกระทำมิได้

ฉะนั้น การแสดงของคุณโน้ส อุดม แต้พานิช ดังกล่าว เป็นเพียงแค่การแสดงความคิดเห็น การถ่ายทอดความรู้สึก และเป็นการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลที่ล้มเหลว หาใช่การแสดงข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือการกล่าวหา ใส่ร้ายผู้อื่นให้ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด

3 เดี่ยว 13 โน้ส อุดม 4

อีกทั้งรัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรี เป็นบุคคลสาธารณะที่ต้องยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนได้ ประกอบกับการแสดงความคิดเห็นดังกล่าว ยังสอดคล้องกับความรู้สึกของประชาชนที่เห็นด้วยส่วนใหญ่ ที่เป็นเจ้าของประเทศ เจ้าของอำนาจอธิปไตย ตลอดจนเป็นผู้เสียภาษีให้กับรัฐ ถือเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง ที่ได้รับผลกระทบจากการทำงานของรัฐบาลที่ล้มเหลว ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ตลอดระยะเวลา 8 ปี ที่ผ่านมา จึงย่อมมีสิทธิตรวจสอบและวิพากษ์วิจารณ์ สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย เห็นว่า รัฐบาลควรปล่อยให้ประชาชนได้มีการตรวจสอบและวิพากษ์วิจารณ์ การทำงานของรัฐบาล หรือนายกรัฐมนตรี ให้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความคิดเห็นในรูปแบบใด และสำคัญที่สุด รัฐบาลหรือผู้มีอำนาจต้องไม่ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือดำเนินคดีกับผู้ที่เห็นต่าง อันจะทำให้บ้านเมืองเข้าสู่ความขัดแย้ง และนำไปสู่การใช้ความรุนแรงแบบไม่จบสิ้น

กรณีดังกล่าว น่าจะเป็นประโยชน์และอุทาหรณ์ ให้เห็นว่า ความคิดเห็นที่แตกต่างของประชาชน เป็นเรื่องปกติและเป็นสิ่งที่สวยงามในระบอบประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ตาม ซึ่งประชาชนเหล่านั้นสามารถอยู่ร่วมกันได้ภายใต้กฎหมายเดียวกัน มิได้สร้างความขัดแย้งหรือก่อให้เกิดความรุนแรงขึ้นในสังคมไทย เพราะเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตนั้นเป็นของประชาชนคนไทยทุกคน

13 เดี่ยว 13 โน้ส อุดม 2

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo