ผู้ชายโลกใบที่ 2 เปิดหน้าออกโหนกระแส เล่าจุดแตกหัก หญิงลี งัดหลักฐานฟาดอีก ยืนยันไม่ได้คิดกอบโกย ไม่เคยขโมยของ
รายการโหนกระแส วันนี้ (14 ธ.ค.) พูดคุยกรณี หญิงลี ลูกทุ่งสาวที่ออกมาแถลงเปิดใจ กรณีมีเพจแฉนักร้องลูกทุ่งสาวโลกสองใบ ชี้แจงในเรื่องดังกล่าวว่า ถูกอดีตแฟนหนุ่มคุกคาม บุกรุก และยืนยันข้อเท็จจริงในฝั่งของตัวเอง
เบนซ์ อดีตแฟนของหญิงลี ออกมาเปิดเผยในรายการ โดยบอกว่า ตอนแรกไม่ได้อยากออกมาพูด แต่เนื่องจากวันนี้ถูกพาดพิง ถูกแจ้งความ จึงต้องขอออกมาปกป้องสิทธิ์ของตัวเองบ้าง
- สรุปดราม่าโลก 2 ใบ หญิงลี ยันไม่คบซ้อน อดีตแฟนสวนทันที แฉอีกมุมหนังคนละม้วน!
- ฝ่ายชายโต้กลับ หญิงลี หนังคนละม้วน ปมนักร้องโลก 2 ใบ ชวนไปอยู่ด้วยหาว่าบุกรุก
- หญิงลี เคลียร์ปมโลก 2 ใบ มีโอกาสได้คุยแต่ไม่ได้คบซ้อน แฉผู้ใหม่คุกคาม มีหลักฐาน
ตนรู้จักกับหญิงลี เมื่อประมาณ 3 ปี ที่ผ่านมา ตอนนั้นทำอาชีพช่างภาพฟรีแลนซ์ รับถ่ายภาพ เคยเจอหญิงลีในงาน งานหนึ่ง แต่หลังจากนั้นมาก็ไม่ได้เจอกันอีก ต่อมาเมื่อปีที่แล้ว ตนไปเก็บภาพคอนเสิร์ต จนได้มาเจอหญิงลีอีกครั้ง เขาให้ผู้จัดการมาบอกกับตนว่าให้ไปรอหลังเวที
หลังจากหญิงลีถ่ายภาพกับแฟนคลับเสร็จ เขาเดินมากอดตน กอดอยู่สักพักใหญ่ จนผู้จัดการมาสะกิดบอกว่า ดูไม่ดีแล้ว เขาจึงบอกให้ทางผู้จัดการมาขอเบอร์ ขอไลน์ตนไว้ ซึ่งตอนนั้นตนไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ว่า เผื่อมีงาน มีคอนเน็กชันจึงให้เบอร์และไลน์ไป
วันรุ่งขึ้นหญิงลีทักแชตไลน์ มาสอบถามว่าตนทำงานอะไร ทำอาชีพอะไร ตนก็เล่าให้ฟัง จากนั้นเขาถามตนว่า เงินพอใช้ไหม ตนก็บอกไปว่าพอที่จะประคองตัวเองได้ จากนั้นเขาโอนเงินให้ตน 5,000 บาท
หลังจากวันนั้นเขาติดต่อให้ตนไปหา เพื่อที่จะไปคุยงาน เนื่องจากเขาต้องขึ้นคอนเสิร์ต พอตนไปถึง รองานจบ เขาชวนไปทานข้าว ตนก็รู้สึกเอะใจ ว่าทำไมถึงชวนไปทานข้าว แต่ตนก็ไป จากนั้นก็พูดคุยกันมากขึ้น ต่างคนก็ต่างมีใจให้กัน และหญิงลีบอกว่าตามหาคนแบบตนมานานแล้ว การที่เราได้มาเจอกันถือว่าเป็นพรหมลิขิต
หลังจากนั้นเพียง 2-3 วัน หญิงลีได้ชักชวนตน ไปอาศัยอยู่ที่บ้านด้วย ในฐานะคนรัก แต่ช่วยเหลือในการทำงาน โดยให้ตนดูแลเรื่องขับรถ ดูแลเรื่องของที่พัก รวมถึงการเดินทางไปงานคอนเสิร์ต ซึ่งหญิงลีให้เงินตนเดือน 20,000 บาท ซึ่งคนในบ้านรวมถึงทีมงานรับรู้ความสัมพันธ์ของตนและหญิงลีทั้งหมด
ตอนที่ตกลงคบหากัน ตนไม่มีแฟน และก็รู้ว่าหญิงลีเคยมีแฟน เคยไปนั่งดื่มกินกับแฟนเขามาก่อน ก่อนตัดสินใจจะมาอยู่บ้านเขา ก็ถามแล้วว่า ผู้ชายคนนั้นยังอยู่ไหม เขาบอกว่าเลิกรากันแล้ว แต่ยังทำงานด้วยกัน ถ้าเขายังคบกันอยู่ตนก็คงไม่ย้ายมาอยู่กับเขาอยู่แล้ว แต่ระหว่างที่คบหากัน หญิงลีชอบคุยโทรศัพท์ตลอด เขาบอกว่าคุยเรื่องงาน
หลังจากนั้น หญิงลียังพาตนไปที่รีสอร์ตของเขาที่บุรีรัมย์ ซึ่งตอนนั้นพี่ไม้เขาดูแลอยู่ พี่ไม้เป็นคนมาเปิดห้องให้ ตอนนั้นหญิงลีให้เราลงที่ปั๊มน้ำมัน แล้วให้หลานเขามารับไปที่รีสอร์ต ให้ใส่หมวก ใส่แมสก์ ให้ใช้ชื่อปลอมเปิดห้อง หญิงลีให้เหตุผลว่า ไม่อยากให้พี่ไม้เสียใจ ทำร้ายจิตใจเขาเกินไป
แต่ตอนนั้นตนมองไปเห็นว่า ตอนที่หญิงลีเดินทางมาถึงรีสอร์ต เขาก็เข้าไปกอดไปหอมกับพี่ไม้ ตอนนั้นรู้แล้วว่าเขาไม่ได้เคลียร์กัน ไม่ได้เลิกกันแน่นอน ตนจึงออกมาแสดงตัวให้เขารู้ว่าเราไม่พอใจ ด้วยการมานั่งเปิดเพลงเสียงดัง ให้เห็นว่าเราอยู่ตรงนี้ เราเสียใจ เราส่งแชตไปหาเขา ว่าไหนบอกว่าเคลียร์แล้ว ไหนบอกว่าเลิกแล้ว เขาตอบกลับมาว่า จะมานั่งอยู่ทำไม ทำไมไม่เข้าไปนอน ดูแบบนี้มันก็เจ็บ
ต่อมาครั้งที่ 3 หญิงลีเขาไปทำงาน ตนไปรับเขาที่สุวรรณภูมิ จากตอนแรกจะกลับบ้าน ระหว่างทางเขาชวนเราบอกว่า ไปนอนบ้านคนสนิทชื่อ “แม่ใจดี” กันไหม ซึ่งเป็นบ้านที่เราไปกินเที่ยวสังสรรค์กันบ่อย ๆ อยู่แล้ว
ระหว่างที่ไปบ้านนั้น หญิงลีดูกังวลตลอดเวลา แล้วเขาก็เข้าไปคุยโทรศัพท์ในห้องนอนนานมาก แล้วก็วิ่งออกมาหน้าตาตื่น บอกว่าพี่ไม้จะมาที่นี่ จะมารับหญิงกลับ พอพี่ไม้มาถึง เขาก็ปรี่เข้ามาถามว่า “เกิดอะไรขึ้น” ตนก็บอกว่า “ผมไม่รู้ เพราะเขาบอกว่า เขาเคลียร์กับพี่แล้ว” พี่ไม้ก็ถามว่า “มึงจะหยุดไหม” ตนก็เลยบอกว่า “เรื่องความรักพี่ห้ามใครไม่ได้นะ” ที่ตอบเขาไปแบบนั้น เพราะเราเข้าใจว่า หญิงลีเลือกเรา
ตอนนั้นพี่ไม้เดือดแล้ว เขาพูดว่า “ถ้ามึงไม่หยุด กูจะหยุดมึงเอง” แล้วเขาก็รูดซิป โชว์ปืน แต่ไม่ได้เอาปืนมาจ่อหัว เห็นชัดเจนเลยว่าเป็นปืน ตำรวจมาค้นที่บ้านก็เจอปืนจริง ๆ เหตุการณ์นี้ตนไม่ได้ติดใจเอาความ แต่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
ซึ่งทนายแก้วให้ความรู้ทางคดีว่า เรื่องการทำให้ผู้อื่นตกใจกลัวด้วยอาวุธปืน เป็นอาญาแผ่นดิน หากจะแจ้งดำเนินคดี จะรื้อขึ้นมาก็ยังทำได้ มีโทษจำคุก 5 ปี สามารถไปให้ปากคำกับ สน.ที่ลงบันทึกประจำวันได้เลย
เหตุการณ์นั้น หญิงลีพูดต่อหน้าพี่ไม้ว่าเขาเลือกเรา แต่พออยู่กันต่อมาอีกเดือนนึง ก็มีปัญหากันเรื่อยมา จนเรารู้สึกว่าไม่สามารถจะไปต่อกันได้แล้ว ก็เลยตกลงกันว่า เดี๋ยวเราจะแยกกันในวันที่ 19 เมษายน เขาต้องไปทำงานต่างประเทศหลายวัน ให้เราเก็บข้าวของออกจากบ้านก่อนที่เขาจะกลับมา
แต่เหตุมาเกิดวันที่ 16 เมษายน ตนตัดสินใจจะออกจากบ้านแล้ว อยู่บ้านหลังนั้นไม่ได้แล้ว รู้สึกอึดอัด และเสียใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น หญิงลีก็เข้ามาถามตนว่า ทำไมถึงรีบไป ทำไม่ถึงไม่อยู่เก็บเกี่ยวความสุขกันก่อน แต่ตนก็บอกว่าไม่อยู่แล้ว รู้สึกอึดอัด
ตนยอมรับว่าดื่มแอลกอฮอล์ เมา แต่ยังมีสติ เพราะหญิงลียกเรื่องพี่ไม้ขึ้นมาพูดอีก สุดท้ายมีปัญหากระทบกระทั่งกัน เขาให้พ่อบ้านมายึดมือถือเรา ซึ่งโทรศัพท์เครื่องนี้ เขาซื้อให้เรา ยืนยันว่าซื้อให้ ไม่ใช่การให้ยืมแน่นอน ตอนนั้นตนพยายามไลฟ์สดเพื่อให้เห็นว่า เขาจะใช้กำลังบังคับให้เราออกจากบ้าน สุดท้ายถูกกระชากคอเสื้อจนขาด ทุบที่หลังคอ จนมือถือตก เขายึดมือถือเครื่องนั้นเอาไว้ ตำรวจคืนให้แต่ซิม แต่ไม่ได้เครื่องคืน
หญิงลียังไปแจ้งความฐานลักทรัพย์ กล่าวหาว่าตนขโมยกล้อง เพราะตนเคยถ่ายรูปกล้องเหล่านั้นเอาไว้ ตนยืนยันว่าตนถ่ายรูปไว้เพื่อทำธุรกิจปล่อยเช่ากล้อง ซึ่งหญิงลีให้ตนทำได้เลย แล้วตอนที่กล้องหายไปจากบ้าน เราก็ยังดี ๆ กันอยู่ ตนยังบอกเขาว่าให้เขาไปแจ้งความไว้ เพราะมีคนเข้านอกออกในบ้านตลอด หญิงลีไม่ยอมไปแจ้ง เพราะบอกว่าไม่อยากกล่าวหาคนในบ้าน แต่อยู่ดี ๆ มาแจ้งจับตน
อย่างไรก็ตาม หญิงลีได้ส่งคลิปเหตุการณ์วันที่เบนซ์เมาขาดสติ เป็นเหตุการณ์ที่หญิงลีโทรบอกแม่เบนซ์ ว่าให้มารับเบนซ์กลับไป แต่เบนซ์ลั่นวาจาว่า ให้แม่รอมาประกันตัวได้เลย วันนี้ถ้าหญิงลีทำกับตนแบบนี้ ตนก็จะทำกับหญิงลีเหมือนกัน ให้รอไปประกันตัวได้เลย หรือไปประกันที่บุรีรัมย์ก็ได้ เพราะตนจะไปทำบางอย่างที่รีสอร์ตของหญิงลี
ทนายแก้วมองว่าดูจากคลิปแล้ว ไม่ได้เข้าข่ายเรื่องข่มขู่ แต่เป็นความผิดลหุโทษมากกว่า ในกรณีของการทำให้เดือดร้อนรำคาญ
เรื่องนี้ต่างฝ่ายต่างมีประเด็นกฎหมายคนละข้อ ถ้าเบนซ์ยืนยันข้อเท็จจริงได้ว่าไม่ได้ลักทรัพย์ไม่ได้ขโมยกล้อง ก็ไปแจ้งความกลับหญิงลีได้ เรื่องแจ้งความเท็จ และไปแจ้งความไม้ฐานข่มขู่ให้ตกใจกลัวได้เช่นกัน
ส่วนกรณีที่หญิงลีบอกว่า มีข้อความในโทรศัพท์ที่ยึดมาจากเบนซ์ ที่เบนซ์คุยกับแฟนเก่า บอกว่า ให้กอบโกยมาเยอะ ๆ เป็นข้อความที่แฟนเก่าเขาประชดประชันว่าเราไปคบหญิงลีเพราะจะเกาะผู้หญิงกิน ผู้หญิงคนนี้ไม่พอใจ ที่หญิงลีโทรไปเอาเรื่องเขา ให้เขาเลิกคุยกับเรา
ส่วนที่มีแชตที่เราคุยกับเพื่อน ว่าเราเสพยาไอซ์ ดีดจนไม่ได้นอน ก็เป็นข้อความที่เราพูดเล่นกับเพื่อน ยอมรับว่าเคยเสพจริง แต่นานมาแล้ว ตอนนี้ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวยาเสพติดแล้ว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- งานเข้า เจนนี่ รัชนก โดนลูกค้าแจ้งความ งงใจยกเลิกงานเอง แต่จะขอค่ามัดจำคืน
- สมรักษ์ พาซวย! น้องชายโดนด้วย 2 ข้อหา พาสาว 17 ไปส่ง รร. ดราม่าคำขวัญขอนแก่น
- แนน น้องหนิง ปณิตา หามพี่สาวส่ง รพ. ฟาดคนเห็นแก่ตัว สร้างหนี้ สร้างเรื่องราวไม่จบสิ้น!
